Host: ในวันพุธที่ 26 มกราคม 2022 ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ผู้เป็นที่รักที่สุดของเรา ได้รับข้อมูลสำคัญ จากหัวหน้าของโควิด และท่านได้โทรอย่างเร่งด่วน เพื่อแบ่งปันมันกับ สมาชิกทีมงาน โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์บางคน ท่านยังขอให้ ส่งข้อความนี้ ถึงโลก ด้วยความหวัง ที่จะปลุกและช่วยวิญญาณ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ฉันไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าฉันควรจะบอกทั้งหมดนี่ไหม แต่ยังไงฉันก็จะบอก เผื่อใครสักคนยังมีหูได้ยิน และตื่นขึ้นในไม่ช้า [...] ฉันได้ดูข่าว [...] แล้วหลังจากนั้น ฉันก็ไม่สามารถนั่งสมาธิได้ แล้วฉันพักผ่อนก็ไม่ได้ แล้วฉันก็ “อีเมล์” ถึงหัวหน้าโควิด แล้วคุยกับเขา ฉันถามเขาว่า “ได้โปรดมา เราต้องคุยกัน” เพราะ [...] ในข่าว [...] ฉันเห็นบุรุษพยาบาล – เขาดูดีมาก (ครับ อาจารย์) คนที่ใจดีเมตตามาก และยังหนุ่มมาก ไม่แก่ อาจจะ 50 กว่า [...] และเมตตามาก
“ Media report from WFLA News Channel 8 Jan. 25, 2022 Melanie Michael (f): ตอนที่โควิดระบาดหนัก เจฟเซลส์รู้ถึงความเสี่ยง ของการทำงานในโรงพยาบาล แต่เขาก็รู้เช่นกัน ว่าพยาบาลเป็นที่ต้องการ อดีตแพทย์ทหารบก รักการช่วยชีวิต ด้วยการรับใช้อย่างมาก สองวันก่อน มันคือชีวิตของเขาเอง ที่ต้องการการช่วยเหลือ แต่มันสายเกินไป เจฟเซลส์อายุแค่ 47 ปี แต่งงานแล้วเป็นพ่อลูกสี่ ทำงานไม่หยุด 12 ชม. ต่อวัน ในหน่วยโควิด ที่ศูนย์แพทย์ เบลค ที่บราเดนตัน เขายังทำงาน เพิ่มสองถึงสามกะ เพื่อดูแลผู้ป่วย ขณะที่ดูแลตัวเขาเอง และอาการทางหัวใจของเขา เขาจะเตือนลูกชายของเขาบ่อย ๆว่า: การช่วยโลกเริ่มต้นด้วย การช่วยคนทีละคน
Son of Jeff Sales(m): เขาเป็นคนที่ดีที่สุด ที่ผมเคยรู้จักมา และถ้าผมเอาแค่ครึ่งหนึ่งของเขาได้ ผมจะเป็นคนที่ผมอยากจะเป็น
Melanie Michael (f): พ่อของเขาเกิดมาเพื่อรับใช้ผู้คน และจะทำสิ่งนั้น จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขา ”
แบบ ตามที่ เพื่อนร่วมงานของเขาคนหนึ่งบอก ครั้งหนึ่งเธอพบว่าเขา จับมือของ ผู้ป่วยใหม่คนหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเข้ารับการผ่าตัด และเธอกลัวมาก ดังนั้น พยาบาลหญิงคนนี้รู้ว่า บุรุษพยาบาลคนนี้ มีเรื่องอื่นหลายเรื่องมากที่ต้องทำ แต่เธอก็ยังพบว่าเขา นั่งที่นั่นกับผู้ป่วยคนใหม่ จับมือเธอไว้ – (วาว) ปลอบโยนคนไข้ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ดังนั้น พยาบาลผู้หญิงคนนี้ เธอพูดกับตัวเองว่า “โอ้ นั่นคือพยาบาล แบบที่ฉันอยากจะเป็น” และรู้อะไรไหม? เขาตายเพราะโควิด (โอ้ ไม่) หลังจากตรวจพบว่าติดเชื้อ สิบสองชั่วโมงหลังจากนั้น เขาตาย อย่างนั้น ในโรงพยาบาลเดียวกัน ที่เขาทำงาน (โอ้ พระเจ้า) และคนที่ใจดีเมตตาเช่นนั้น [...]
มันเป็นวันที่ยุ่งมากด้วย แล้วเขาก็ยังแบ่งเวลา นั่งที่นั่นและคุยกับเธอ (วาว) ปลอบโยนเธอ ดังนั้น ฉันค่อนข้างไม่พอใจและโกรธ ฉันเรียกหัวหน้าของโควิด และคุยกับเขา ฉันบอกว่า “ทำไมคุณต้องฆ่า คนที่ใจดีเช่นนั้น?” [...] หัวหน้าโควิดก็ตอบว่า “เพราะความรักความเมตตา จะไม่ช่วยผู้คน จากโควิด” (โอ้) ดูนั่น (วาว) โอ้ มันทำให้ฉันตัวสั่น หลังจากการสนทนาทั้งหมดนี้กับเขา มันไม่เพียงพอ แล้วอะไรล่ะที่พอ (วาว) ความรักความเมตตา มันอยู่ใน อาณาจักรแห่งอารมณ์ (โอเค โอ้ ครับ) เช่นเดียวกับความฉลาด หรือการรู้สิ่งต่าง ๆ ทางโลก หรือแม้แต่คำตอบทางจิตวิญญาณ พวกมันเป็นของอาณาจักร ความคิดและจิตคิด (โอ้ ใช่ครับ) นี่คือระดับโลกทิพย์ อารมณ์มาจาก ระดับโลกทิพย์ [...] (วาว)
ฉันคิดว่าพวกเขาจะละเว้น คนที่เมตตากรุณา ใจดี [...] ฉันคิดว่าถ้าคนเมตตากรุณา ใจดี พวกเขาจะไม่เป็นไร แต่เขาบอกฉัน... นี่คือคำพูดของเขา: “เพราะความรักความเมตตา จะไม่ช่วยผู้คน จากโควิด” !!! และฉันใส่เครื่องหมายตกใจสามอัน ต่อจากนั้นเอง (วาว) [...] พระเจ้า คุณจะคิดว่า ความรักความเมตตา จะปกป้องผู้คน (ใช่ค่ะ ๆ ใช่ค่ะ เราคิดเช่นนั้นค่ะ อาจารย์) แต่นั่นคือแค่ด้านหนึ่ง ของคุณสมบัติมนุษย์ นั่นเป็นอารมณ์ระดับโลกทิพย์ (โอ้ ครับ โอเค) มันไม่ได้เป็นของระดับ จิตวิญญาณที่สูงส่ง (ค่ะ/ครับ อาจารย์) […]
เขาบอกว่า “แต่เขากำลังทำงาน หาเลี้ยงชีพ มันเป็นงานของเขา” (โอ้) ก็ แน่นอน มันจริงเช่นนั้น แต่มีคนจำนวนมาก คนจำนวนมากที่ทำงานของพวกเขา แต่ไม่เมตตาอย่างนั้น (ใช่ค่ะ/ครับ) แม้ว่าพวกเขาจะได้เงิน (ค่ะ/ครับ อาจารย์) เขาไม่เหมือนคนอื่น ชายคนนี้ เขาเมตตาจริง ๆ (ครับ) และเขายอมทำ เกินหน้าที่เพื่อช่วยเหลือ (ครับ อาจารย์ ค่ะ) ยังไงฉันก็ยังโมโหมาก ฉันอารมณ์เสียมากและคุยต่อ ดังนั้น ฉันพูดกับเขา… ฉันเสียงแข็งกับเขา... สุภาพแต่เสียงแข็ง
ฉันพูดว่า “งั้น อะไร จะช่วยคนจากโควิดได้?” เขาก็บอกฉันว่า ฉันเขียนไว้ที่นี่ “หัวหน้าซีวี” ซีวี หมายถึง หัวหน้าโควิด […] “ลูกศิษย์ของ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่” ! (วาว) ฉันใส่ เครื่องหมายตกใจหนึ่งอัน (วาว) ฉันอ่านให้คุณฟังอย่างที่เขียน (ค่ะ/ครับ อาจารย์ วาว) ด้วยเครื่องหมายจุลภาคและจุด และทั้งหมดนั่น ฉันบอกว่า “ขอบคุณสำหรับความเคารพ ของคุณ แต่พวกเขาบางคน คนที่เรียกว่าลูกศิษย์ของฉัน ก็ยังติดโควิดไปแล้ว ทำไมล่ะ?” แล้วหัวหน้าโควิดพูดว่า “เพราะพวกเขาไม่คู่ควร” (วาว! ) […]
ฉันซักถามเขาต่อ ฉันอารมณ์เสีย ฉันก็เลยพูดว่า “อะไรที่จัดประเภทพวกเขา ว่าไม่คู่ควร?” [...] หัวหน้าซีวี […] ก็พูดว่า “ไม่บำเพ็ญอย่างจริงจัง” (โอ้!) ฉันจึงถามเขาว่า “ในทางไหน?” หัวหน้าซีวีตอบว่า [...] “ไม่ทำสมาธิอย่างพากเพียร ไม่เคารพคำสอนของท่าน ไม่สร้างสันติ กับลูกศิษย์ที่คู่ควรของท่าน” (วาว!) พวกเขาอาจจะทะเลาะ กับคนที่สูงวัย ลูกศิษย์อาวุโส คนที่ดีกว่า (ครับ) (วาว) คนที่รู้ดีกว่าและ อาจจะชี้ จุดด้อยของพวกเขาบางอย่าง หรือบอกพวกเขาให้ทำตัวให้ดีขึ้น แล้วพวกเขา อาจจะโกรธ มันเหมือนเดิมเสมอ คนไม่สำนึกในบุญคุณ ตอนที่คุณสอนพวกเขา เพราะอัตตาของพวกเขาเจ็บปวด (ค่ะ/ครับ) […] แล้วฉันบอกว่า “ขอบคุณสำหรับข้อมูล ฉันจะพยายามสื่อสิ่งนี้ถึงพวกเขา (โอ้) ยังไงก็เศร้ามาก” (โอ้ ครับ อาจารย์) แล้วก็หยุดสักพัก แล้ว [...]
ฉันพูดว่า “โอ้ แล้วพยาบาลคนนั้น เป็นยังไง?” ฉันหมายถึงเขาได้ไปที่ไหน? (ค่ะ) วิญญาณของเขาเป็นยังไง? หัวหน้าซีวีก็บอกฉันว่า [...] “ตาย ไปที่ โลกทิพย์ที่การเจ็บป่วยเป็นศูนย์” คุณรู้ไหมว่ามันคืออะไร? (ไม่ครับ อาจารย์) หมายถึงเขาไปยังโลก ที่ไม่มีการเจ็บป่วยเลย (โอ้ โอ้ ใช่ครับ) อาจจะเพราะ กรรมดีของเขา (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แล้วเขาตายที่นั่น เพราะเขาติดเชื้อ เขาจึงได้รับรางวัล... [...] ไปที่โลกทิพย์ ที่การเจ็บป่วยเป็นศูนย์ [...] แล้ว เอ็มถาม “เขาจะได้รับโอกาส อยู่ที่นั่นไปตลอดกาลไหม? หรือได้รับการยกระดับบ้างไหม?” หมายถึงไปที่อื่นไหม [...] หัวหน้าซีวีก็บอกฉันว่า “กลับมาในไม่ช้า” เป็นคำที่เขาพูดเลย (ค่ะ/ครับ) “กลับมาในไม่ช้า ปี 2094” (โอ้) 72 ปีให้หลัง ใช่ไหม? (ค่ะ/ครับ) นั่นเชื่อมต่อ กับสิ่งอื่น ๆ ภายหลัง คุณจะเห็นในไม่ช้า [...]
ฉันก็พูดว่า “ขอบคุณมาก ๆ สำหรับเวลาของคุณ หัวหน้า ความใจดีของคุณ” หมายความว่า คุณใจดีมาก (ครับ อาจารย์) “ได้โปรด เราคุยกัน เพิ่มอีกนิดได้ไหม?” ฉันอ่อนลงนิดหน่อยตอนนี้ [...] น้ำเสียงของฉันอ่อนลง [...] ดังนั้น หัวหน้าซีวีพูดว่า “ได้” ฉันถามว่า “แล้วคน ที่เปลี่ยนเป็นวีแกน พวกเขาจะได้รับการละเว้นจาก ความทุกข์ของโควิดเช่นกันไหม?” [...] หัวหน้าซีวีก็พูดว่า “สำหรับลูกศิษย์เท่านั้น” (โอ้ วาว) ฉันไม่ค่อยพอใจนัก ฉันจึงบอกเขาไป ด้วยเสียงที่สูงขึ้นนิดหน่อย “แต่คนจำนวนมาก ๆ ที่ไม่ใช่ลูกศิษย์ แล้วพวกเขาจะไม่เป็นลูกศิษย์ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) คนจำนวนมากไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉัน แต่พวกเขาก็ไม่ติดเชื้อ ทำไมล่ะ?” หัวหน้าซีวีก็พูดว่า “เพราะ เวลาของพวกเขายังมาไม่ถึง” (โอ้ วาว) [...]
อีกอย่าง ข่าวใหม่ ฉันถามเขาเกี่ยวกับ ท่าน ติช นัท ฮันห์ “ท่านละสังขารในวัยชรา อย่างสงบ (ใช่ค่ะ) เขาไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉัน คุณอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร?” [...] หัวหน้าโควิดจึงบอกฉัน “เพราะเขาเป็นอดีต นักบุญที่คู่ควร” แปลว่า เขาเป็นนักบุญที่คู่ควร ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) นั่นคือสิ่งที่เขาหมายถึง แต่เหล่านี้คือคำพูดของเขาตรง ๆ เพราะเขาเป็น “อดีต นักบุญที่คู่ควร” (โอ้) [...] ฉันถามเขาว่า “ดังนั้น นักบุญที่คู่ควร จะได้รับการละเว้นจากโควิดใช่ไหม?” หัวหน้าซีวีบอกว่า “ถูกต้อง” (วาว) [...]
แล้วฉันก็ถามเขาต่อ “คุณบอกฉันได้ไหมครั้งนี้ ว่าเมื่อไหร่โควิด-19 จะยุติ แล้วโลก จะกลับไปเป็นปกติ?” หัวหน้าของโควิด ได้บอกฉันว่า... โอ้พระเจ้า ฉันควรบอกไหม? [...] ให้ฉันเช็คอีกที (ค่ะ/ครับ โอเค อาจารย์) เพราะครั้งที่แล้ว เขาไม่ต้องการ บอกฉัน (ค่ะ/ครับ) ครั้งนี้ เพราะ ฉันค่อนข้างโมโห (ครับ อาจารย์) สักครู่ แต่ฉันต้องบอกมนุษย์ ไม่ว่าจะอะไร พวกเขาไม่ต้องเชื่อฉัน และถ้ามันกลายเป็นตรงกันข้าม ก็ยิ่งดีกว่า ดังนั้น ฉันจะบอกคุณ (โอเค อาจารย์ ขอบคุณท่านอาจารย์) ให้โลกได้จัดการ ให้ระมัดระวัง (ค่ะ/ครับ อาจารย์) หัวหน้าโควิด-19 บอกฉัน “ปี 2099 [...] 4 พฤศจิกายน” (วาว นั่นอีกนาน นานมาก)
ฉันก็รู้สึกขอบคุณสำหรับรายละเอียดของเขา ฉันบอก “ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมาก ๆ หัวหน้า” (โอ้โฮ มันนานมาก โอ้ พระเจ้า) ครั้งที่แล้ว เขาไม่อยากบอกฉัน ครั้งนี้เขาบอกฉันอย่างละเอียด ฉันบอกว่า “คุณต้องบอกฉัน เพราะคนทางโลกบางคน พวกเขาไม่เข้าใจอะไร (ครับ) บางที เราต้องบอกพวกเขา พวกเขาอาจจะตื่นขึ้น” คนบางคนเป็นคนดี พวกเขาแค่ไม่รู้ และได้รับอิทธิพลจากคนเลว และจากปีศาจ ที่มีอยู่มากมาย […] (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แล้วพวกเขามีอิทธิพลต่อคนพวกนั้น
ฉันจึงถามเขาต่อ “ถึงเวลานั้น จะมีเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์?” หมายถึง มนุษย์ กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ฉันแค่เขียนไว้สำหรับตัวเอง ฉันจึงไม่ได้เขียนมัน อย่างถูกไวยากรณ์ดีนัก [...] “แล้วเราจะเริ่มต้นใหม่ได้ไหม?” หลังจากนั้น [...] 77 ปี คิดดู [...] “และจนถึงตอนนั้น จะมีการตาย การเจ็บป่วย การทำลายล้าง สายพันธุ์ใหม่และร้ายแรง อันตรายมากขึ้น ถูกต้องไหม?” หัวหน้าซีวีก็พูดว่า “ใช่ (โอ้ วาว) เหลือ 9%” (9% โอ้ วาว) (วาว) เขาบอกว่า “เหลือแค่ 9% จนถึงตอนนั้น” (โอ้ วาว) แบบ 77 ปีให้หลัง […]
ฉันจึงถามเขา “วัคซีนไม่ช่วยหรือ?” หัวหน้าซีวีบอกว่า “ไม่ เป็นศูนย์” โอ้ พระเจ้า (โอ้ วาว) [...]
แต่ฉันเฝ้าบอกคุณมาก่อน เราไม่สามารถพึ่งแต่วัคซีน และทั้งหมดนั่นได้ เราต้องพึ่งพระเจ้า (ครับ อาจารย์) (ค่ะ) พระคุณของพระเจ้า แล้วเราต้องทำตัวเราให้ดีขึ้น (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ให้คู่ควรกับสิ่งนั้น ให้คู่ควรกับการอภัยโทษ ฉันเฝ้าบอกคุณเรื่องนั้น ไม่ใช่หรือ? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) [...] ฉันรู้มาไม่มากก็น้อย เช่นนี้มาก่อน แต่ได้รับการบอกชัด ๆ ขาวและดำอย่างนั้น มันก็ทำให้ฉันตัวสั่น ทำให้ฉันสั่นข้างใน (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
ดังนั้น หลังจากหยุดไปสักพัก ฉันถามเขาอีกครั้ง “แต่เราต้องการผู้คน เพื่อทำให้โลกเดินหน้าไปได้ ชาวโลกจะสามารถอยู่รอดได้ ด้วยแรงงานที่มีความสามารถ และเก่งกาจเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหรือ?” หัวหน้าซีวีตอบ “อย่ารักคนเหล่านั้น พวกคนทำชั่ว” (วาว โอ้ โอ้ พระเจ้า) ฉันไม่แน่ใจว่าเขาบอกฉัน ว่าอย่ารักคนที่ทำชั่ว หรือเขาบอกฉันว่า พวกเขาไม่รักคนที่ทำชั่ว เรากำลังสนทนากัน ฉันไม่ได้ถามเขา [...] ฉันได้ถูกบอกไปครั้งหนึ่งเช่นกันก่อนนี้ “อย่ารักคนชั่ว” เพราะฉันกำลังอธิษฐานให้ผู้คน สำหรับคนบางคน (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แล้วสวรรค์บอกฉัน “อย่ารักพวกมาร” นั่นคือสิ่งที่พวกเขาบอกฉัน และครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง มันมาจากคนอื่น (วาว) สักครู่
ฉันเดาว่าพวกเขาแค่หมายถึง อย่างที่พระเยซูตรัสไว้ “ให้คนตายฝังคนตาย” (อ้อค่ะ ใช่ครับ ใช่ อาจารย์) ดังนั้น เราทุกคนต่างโปร่งใส เราเสแสร้งไม่ได้ เราไม่สามารถมีลักษณะภายนอก ของคนมีศีลธรรมดี แล้วคิด ว่าเราปลอดภัยแล้ว สวรรค์เห็นทุกสิ่ง แม้แต่พลังลบ พวกเขาก็เห็นทุกอย่าง (โว้ว ใช่ค่ะใช่) (ครับ อาจารย์) พลังลบเหล่านี้ พวกเขาก็ยังได้รับบัญชา จากสวรรค์ให้ทำสิ่งนี้ (โอ้) พวกเขาแค่กำลังทำหน้าที่ของพวกเขา (เข้าใจครับ/ค่ะ) ดังนั้น ฉันโกรธพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ (ค่ะ อาจารย์) มันเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำเองทั้งหมด (ครับ อาจารย์) ทำบนดาวเคราะห์โลก (ค่ะ) [...]
เพราะฉันคิดว่าเขาบอกฉันว่า “อย่ารักคนทำชั่ว” ฉันจึงพูดว่า “มันไม่ชัดเจนมากเสมอไป จากภายนอก จากรูปลักษณ์ของพวกเขา และการกระทำภายนอกของพวกเขา” เราก็โต้แย้งกัน “แล้ววิญญาณ ของพวกเขาจะไปไหน?” [...] หัวหน้าโควิดบอก “นรก” (!!!) (โอ้) คำเดียว ฉันใส่เครื่องหมายตกใจสามอัน ในวงเล็บ แล้วฉันก็ถามเขาต่อ “นานแค่ไหน?” แล้วหัวหน้าซีวีพูดว่า “เป็นเวลานานแสนนาน” (วาว)
ฉันถามอีก “แต่แม้ว่าพวกเขาสำนึกผิดและเปลี่ยน เป็นวีแกนหรือ? ไม่มีประโยชน์หรือ?” หัวหน้าซีวีก็บอกฉันว่า “ไม่” (โอ้ พระเจ้า) (ว้าว) ฉันเดาว่ามันสายไปแล้ว นั่นคือเหตุผล ครั้งที่แล้วเขาบอกฉันว่า “สายไปแล้ว” ใช่ไหม? (ค่ะ/ครับ) จำได้ไหม? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) [...] แล้วฉันก็ทักท้วง ฉันบอกว่า “แต่ฉันได้สัญญาไป ว่าพวกเขาเปลี่ยนวีแกน สำนึกผิด ฉันจะช่วยให้พวกเขาไปสวรรค์ [...] นั่นไม่ควรเกิดขึ้นหรือตอนนี้?” หัวหน้าซีวีก็ตอบฉันว่า “โอ้ ก็ ได้ ถ้าจริงใจ” นั่นคือคำพูดของเขา “ได้ ถ้าจริงใจ” (ว้าว) ดังนั้น คุณเห็นไหม สิ่งสำคัญคือ ผู้คนต้องสำนึกผิด เปลี่ยนเป็นวีแกน และแท้จริง จริงใจ สำนึกผิดอย่างนอบน้อม สำนึกผิด ด้วยใจแท้จริง อย่างเร่งด่วน เท่ากับที่คุณต้องการอากาศหายใจ (ครับ ค่ะ/ครับ อาจารย์) จริงใจเท่ากับสิ่งนั้น (ใช่ครับ) แล้วพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือ แล้วพวกเขาจะได้รับอนุญาต ให้ได้รับการช่วยเหลือ (ครับ อาจารย์ ค่ะ) และฉันแทรกแซงสวรรค์ได้ นั่นคือความหมายของมัน (ครับ) [...]
ดังนั้น ฉันถามเขา “คนบางคน ฟื้นตัวได้ดี ทำไม?” ซีวีซี หมายถึง หัวหน้าโควิด-19 บอกกับฉันว่า “เพราะพวกเขาสำนึกผิดและสวด อธิษฐานขออภัยโทษ” (โอ้!) ก็ต้องจริงใจ (ค่ะ/ครับ) [...] ถ้าพวกเขาได้อธิษฐาน มาก่อน และมีนิสัยนี้ แล้วครั้งนี้ มันสิ้นหวัง ในสถานการณ์สิ้นหวัง พวกเขาอาจจะจริงใจมาก ๆ (ครับ) แล้วพวกเขาจะฟื้นตัวได้ดี แต่นั่นก็ไม่รับรองไปตลอดกาล พวกเขาควรทำต่อไปอย่างนั้น ถ้าพวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่ และถ้าพวกเขาอยากกลับไปสวรรค์ แทนที่จะไปนรก [...] “เพราะพวกเขาสำนึกผิด และอธิษฐานขออโหสิกรรม” นั่นคือทั้งหมดที่เขาพูด (ค่ะ)
ตอนนี้ฉันถามอีกครั้ง “ดังนั้นถ้า 91% สำนึกผิดต่อบาป อธิษฐานขออโหสิกรรมโดยเร็ว การระบาดใหญ่จะยุติไหม?” หัวหน้าโควิดบอกฉันว่า “ยุติ แต่ต้องจริงใจอย่างแท้จริง ดีที่สุดคือเปลี่ยนเป็นวีแกนด้วย” (วาว) นั่นคือสิ่งที่เขาพูด “แต่ไม่เห็นว่า มันจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้” (โอ้) [...] แปลว่าเขาไม่เห็น ว่าผู้คนจะสำนึกผิดอย่างจริงใจนัก และเปลี่ยนเป็นวีแกนอย่างนั้น [...] โอ้ ใครจะรู้? เราอาจจะออกอากาศสิ่งนี้ คนอาจจะคิดเกี่ยวกับมัน ใช่ไหม? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) (วาว)
ดังนั้น ฉันก็พูดกับเขาว่า [...] “เราจะอธิษฐาน ให้ผู้คนตื่นขึ้น ขอโทษที่มนุษย์นั้นโง่เขลามาก ขอบคุณมาก ๆ ได้โปรดช่วยเราด้วย ถ้าคุณทำได้ พระเจ้าอวยพร ลาก่อน ด้วยความรักของพระเจ้า” (วาว) แล้วเขาก็หันกลับจะไป แล้วฉันก็พูดว่า “โอ้ แต่คำถามสุดท้าย ได้โปรด” ฉันถามเขา “ฉันมีผู้คุ้มครองอยู่รอบ ๆ คุณติดต่อฉันยังไง? ทำไมคุณถึงเข้ามาหาฉันได้ง่ายนัก?” เขาหันกลับมาแล้วบอกฉันว่า “รักท่าน” (โอ้! วาว) แค่นั้นที่เขาพูด แล้วเขาก็จากไป (โอ้ วาว) นั่นเป็นข้อความที่ดีที่สุด ของทั้งบทสนทนา (โอ้ วาว) แค่นั้น
ดังนั้นผู้คนในโลกนี้ พวกเขาต้องสำนึกผิดอย่างแท้จริง พวกเขาต้องสำนึกผิดอย่างจริงใจ เหมือนที่เราต้องการอากาศเพื่อมีชีวิต (ค่ะ/ครับ) เร่งด่วนมาก ราวกับพวกเขา ต้องการอากาศในการมีชีวิต เหมือน ตอนคุณติดโควิดแล้วหายใจไม่ออก (ใช่) ในเวลานั้น อากาศสำคัญที่สุด สำหรับพวกเขา ดังนั้น อธิษฐานอย่างนั้น อธิษฐาน เหมือนมันเป็นคำอธิษฐานสุดท้าย ของคุณ เหมือนคุณจะไม่มีโอกาส อธิษฐานอีกครั้ง (ค่ะ/ครับ) อธิษฐานเหมือนกับทั้งชีวิตของคุณ และทุกสิ่งทุกอย่าง ที่คุณหวงแหนขึ้นอยู่กับมัน (ค่ะ อาจารย์) อธิษฐานราวกับว่าคุณกำลังจมน้ำ แล้วคุณต้องการอากาศ แล้วเปลี่ยนเป็นวีแกนและสำนึกผิด
แน่นอน ดังนั้นเขาพูด สรุปก็คือ สำนึกผิด อธิษฐานขออโหสิกรรม และเปลี่ยนเป็นวีแกน สามสิ่ง ซึ่งไม่มากจริง ๆ ฉันตำหนิเขาไม่ได้ (ค่ะ/ครับ ครับ อาจารย์) เขาแค่ให้ข้อมูลกับเรา อันที่จริงแล้ว [...] ดังนั้น เราก็มี ข้อตกลงร่วมกัน เงียบ ๆ อย่างนี้ ว่าถ้าคุณสำนึกผิดอย่างจริงใจ และอธิษฐานขออโหสิกรรม และเปลี่ยนเป็นวีแกน แล้วมันจะยังมีความหวัง (ค่ะ/ครับ) นั่นเป็นสิ่งเดียว ที่พวกเขาหวังได้ เพราะวัคซีน ไม่ได้ช่วยอะไร (ใช่ค่ะ) ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องกดดันพวกเขา ไม่จำเป็นต้องบังคับพวกเขา (ครับ) พวกเขาก็รู้เองด้วย ดังนั้นฉันไม่กลัวอีกต่อไป ที่จะดูเหมือนว่าเป็นคนต่อต้านวัคซีน มันไม่ใช่อย่างนั้น (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
ฉันบอกกับคุณ คุณทุกคน ก่อนหน้านี้ “มันขึ้นอยู่กับคุณ” ฉันหมายถึง กับผู้คน “ขึ้นอยู่กับคุณ” (ค่ะ ครับ อาจารย์) ตอนที่พวกเขาถามฉัน เกี่ยวกับเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์ บางส่วนในวัคซีน ว่าพวกเขา ควรฉีดมันหรือไม่ ฉันบอกว่า “มันแล้วแต่คุณ” (ค่ะ) แต่ข้อความของฉัน: คือคุณเลือกฉีดวัคซีน หรือบูสเตอร์หรือไม่ อะไรก็ตามที่คุณเลือก ที่คุณเชื่อว่าจะช่วยคุณ มันไม่สำคัญ อะไรก็ตามที่คุณเลือก วัคซีนหรือไม่ โปรดอธิษฐานถึงพระเจ้า โปรดขออโหสิกรรม อย่างนอบน้อม ด้วยความสำนึกผิดต่อบาป อย่างจริงใจแท้จริง และได้โปรดเปลี่ยนเป็นวีแกน แค่นั้น ด้วยความจริงใจ ทั้งหมด
ความสำนึกผิด อธิษฐาน ขออโหสิกรรมและเปลี่ยนเป็นวีแกน มันไม่ยากเลย ใช่ไหม? (ไม่ค่ะ/ครับ อาจารย์) มันไม่ใช่การเรียกร้องมากมาย ใช่ไหม? (ไม่ค่ะ/ครับ อาจารย์) มันไม่ใช่การเรียกร้องด้วยซ้ำ มันเพื่อช่วยตัวคุณเอง ถ้าคุณเอาแต่กลืนกินยาพิษ คุณก็จะตาย ไม่ใช่หรือ? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) คุณจะป่วย (ค่ะ/ครับ อาจารย์) [...] ร่างกายของเราเป็นรถ ที่ต้องการเชื้อเพลิงต่าง ๆ (ใช่ค่ะ) เราต้องใส่พลังงานสด มีชีวิต จากผักและผลไม้ (ค่ะ/ครับ) และธัญพืช ไม่ใช่ซากศพและ พลังงานสกปรกและเน่าเปื่อย เนื้อสัตว์ตายเลือดนองเป็นชิ้น ๆ เต็มไปด้วยยาปฏิชีวนะ เต็มไปด้วย ความกลัวและความสยดสยองในนั้น เช่นกัน (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
พลังงานประเภทนี้ ก่อนที่พวกเขาตาย พวกเขาถูกทรมาน พวกเขารู้ทั้งหมดนั่น และพวกเขายังทรมานพวกนั้น ทางกายเช่นกัน (ค่ะ/ครับ อาจารย์)) ตลอดชีวิตของพวกเขาเป็นการทรมาน ดังนั้น ทั้งหมดนั้นถูกฝัง อยู่ในเนื้อของพวกเขา และถ้าคุณกินมัน คุณจะไม่มีความสงบสุข (ค่ะ/ครับ อาจารย์) คุณรู้สึกมีความสุขไม่ได้ ไม่สุขอย่างแท้จริง (ค่ะ/ครับ อาจารย์) และ แน่นอน คุณจะป่วย สิ่งนั้นไม่ใช่สำหรับ การบริโภคของมนุษย์ ยาปฏิชีวนะและสารปรอท จำนวนมาก และอะไรอื่นอีก ในประชากรปลาทั้งหมด และเชื้อซัลโมเนลลาโดยบังเอิญ อะไรก็ตาม อะไรก็ตาม ทุกวันนี้ โรคภัยไข้เจ็บมากมายอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงโควิด (ค่ะ/ครับ อาจารย์?)
“ Excerpt from The Real Truth About Health Conference Sept. 29, 2019 Maryn Mckenna(f): คนจำนวนมากไม่รู้เรื่องนี้ สัตว์ส่วนมากที่ถูกเลี้ยง เพื่อเป็นเนื้อสัตว์บนดาวเคราะห์นี้ ได้รับยาปฏิชีวนะ แทบทุกวันในชีวิตของพวกเขา ”
“ Media Report from NewsChannel 5 Apr. 7, 2015 Reporter(f): สิ่งที่ถูกใส่ลงในเนื้อวัว เนื้อหมู และสัตว์ปีก ได้รับความสนใจ จากซีดีซี (ศูนย์สำหรับ การควบคุมและการป้องกันโรค) และโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ
Dr. Amy Collins(f): แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของยาปฏิชีวนะ ที่ใช้ในประเทศนี้ ถูกใช้ให้กับเกษตรกรรมสัตว์ นั่นคือ 30 ล้านปอนด์ (~1,360 เมตริกตัน) ของยาปฏิชีวนะถูกใช้ทุกปี เพื่อรักษาสัตว์ ที่ไม่ป่วยด้วยซ้ำ
Reporter(f): ยาปฏิชีวนะถูกให้แก่ปศุสัตว์ เพื่อป้องกันโรค และเสริมการเติบโต
Dr. Amy Collins(f): การปฏิบัติของการให้ยาปฏิชีวนะ ปริมาณต่ำแก่พวกเขา ในอาหารพวกเขาเป็นประจำทุกวัน เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมที่จะเพาะพันธุ์ แบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะ
Reporter(f): แบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะ เหล่านี้จากเนื้อสัตว์ สามารถถูกส่งมาสู่คุณและฉัน ทำให้อาการที่เคยรักษาได้ เป็นปัญหามากขึ้น
Tom Wagstaff: มีผู้ป่วยจำนวนมาก ที่รักษายากเพราะ พวกเขาดื้อยาปฏิชีวนะ
Reporter(f): การตรวจสอบเนื้อสัตว์ดิบ ในซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐบาลพบ แบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะ ในเนื้อไก่งวงบด 81% เนื้อหมู 69% เนื้อวัวบด 55% และไก่ 39% ”
“ Excerpt from The Real Truth About Health Conference Sept. 29, 2019 Maryn Mckenna(f): การดื้อยาปฏิชีวนะถือว่าเป็น การคุกคามต่อสุขภาพมนุษย์ ที่ร้ายแรงที่สุด ในศตวรรษนี้ โดยองค์กรอนามัยโลก และหน่วยงานสุขภาพสำคัญ ๆ ระดับประเทศ ”
“ Excerpt from TED Talk Mar.18, 2015 Maryn Mckenna(f): ห้าหมื่นคนต่อปี เสียชีวิตเพราะติดเชื้อ ที่ไม่มียาใดช่วยได้ ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกขณะนี้ อยู่ที่ 700,000 คนต่อปี ”
“ Mic the Vegan YouTube Channel Sept. 3, 2015: นักวิจัยกล่าวว่า ในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า มันจะคร่าชีวิตผู้คนมากกว่ามะเร็ง ”
“ Media Report from Consumer Reports Sept. 23, 2014 Reporter(f): อาหารทะเลบางประเภท มีรูปแบบหนึ่งของสารปรอทในระดับสูง เรียกว่า เมทิลเมอร์คิวรี ”
“ The Doctor’s Farmacy Podcast Apr. 5, 2021 Dr. Mark Hyman(m): เราพบว่าผู้คนจำนวนมาก ไม่เพียงแต่มีระดับสารปรอทสูง ในเลือดเท่านั้น แต่ยังมี ในระดับร่างกายโดยรวมที่สูงอีกด้วย สี่สิบเปอร์เซ็นต์ของคนที่ไป ที่ศูนย์อุลตร้าเวลเนส มีระดับสารปรอทสูง ที่รบกวนกับชีววิทยาของพวกเขา
Dr. Elizabeth Boham(f): แม้แต่องค์การอนามัยโลก ยังตระหนักดีว่าสารปรอท เป็นหนึ่งในสารเคมี 10 อันดับแรก ที่เป็นปัญหา ด้านสาธารณสุขที่สำคัญ
Dr. Mark Hyman(m): ปรอทเป็นสารพิษที่อันตราย เป็นอันดับสองของโลก รองจากพลูโทเนียม เป็นสารพิษต่อระบบประสาท ที่มีศักยภาพมากที่สุด มันคืออิมมูโนทอกซิน ซึ่งหมายความ ว่ามันทำให้เกิดโรคภูมิต้านตนเอง และปัญหาอื่น ๆ ได้ทุกประเภท ”
เอาล่ะ มีคำถามอื่นไหม ที่รัก? ( ครับ อาจารย์ ) ถามมา ( ตอนที่ท่านอาจารย์พูดว่า “สำนึกผิดต่อบาปอย่างจริงใจ” ผู้คนในโลกอาจจะไม่รู้ ว่าพวกเขาสำนึกผิดเรื่องอะไร เรื่องกินเนื้อสัตว์หรืออย่างอื่นครับ? ) สำหรับสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาทำไป ที่ขัดต่อกฎของจักรวาล ขัดต่อพระคัมภีร์ไบเบิล ขัดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ขัดต่อคำสอนของศาสนาเชน ขัดต่อศาสนาฮินดู ขัดต่อศาสนาอิสลาม คำสอนของเหล่าอาจารย์ บอกคุณให้ใช้ชีวิตอย่างสันติ ชีวิตที่ไม่รุนแรง และปฏิบัติต่อผู้อื่น เช่นเดียวกับที่คุณปฏิบัติต่อตัวคุณเอง
ดังนั้น สิ่งใดที่คุณทำที่ขัดต่อสิ่งนั้น คุณต้องสำนึกผิด พวกเขาต้องสำนึกผิดต่อบาป ที่เป็นส่วนหนึ่งของการฆาตกรรมหมู่ ของพลเมืองสัตว์ ที่บริสุทธิ์หรือ แม้แต่ฆ่าทารก ของพวกเขาเอง หรือแม้แต่ก่อสงคราม กับประเทศอื่น ๆ หรือก่อสงครามกับเพื่อนบ้าน หรือภายในครอบครัว สิ่งใดที่พวกเขารู้ว่าผิด พวกเขาสำนึกผิด สิ่งใด ที่พวกเขาไม่รู้ว่าผิด พวกเขาต้องอธิษฐานถึงพระเจ้า ให้อภัยโทษให้พวกเขาเช่นกัน กับสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ ว่าพวกเขาทำผิด เพียงสำนึกผิดต่อสิ่งที่ผิด และเปลี่ยนเป็นวีแกน ขออภัยโทษ เท่านั้นที่พวกเขาต้องทำ (ครับ อาจารย์)
สำนึกผิดอย่างจริงใจ สำหรับการกระทำผิดทั้งหมด ทั้งที่รู้และไม่รู้ ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ทุกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาต้องสำนึกผิด แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย เช่น การทะเลาะกับเพื่อนบ้าน หรือกับครอบครัว ฆ่าพลเมืองแมลง สิ่งใดที่พวกเขาคิดได้ และ สิ่งใดที่พวกเขาจำไม่ได้ โปรดเพียงขอให้พระเจ้ายกโทษให้ เพราะพวกเขาไม่รู้ แค่สำนึกผิดต่อทุกอย่าง ที่พวกเขาได้ทำผิดไป ที่พวกเขาคิดว่าผิด ที่พวกเขาได้พูดผิดไป อันที่จริง เพียงรู้ว่าพวกมันไม่ดี ต้องสำนึกผิด ถ้าเราเป็นคนดีทุกคน โลกจะไม่กลายเป็น อย่างที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ นั่นชัดเจน ไม่ใช่หรือ? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังก่อสงคราม ซึ่งกันและกัน และกับประเทศเพื่อนบ้าน และกดขี่ประเทศที่เล็กกว่า ฆ่าทารกของพวกเขาเอง หลายล้านคน พระเจ้า มันเหมือนสงคราม กำลังเกิดสงคราม (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
และแข่งกับการแพร่ระบาดใหญ่ มนุษย์ก็เป็นการแพร่ระบาดใหญ่เช่นกัน การระบาดอย่างต่อเนื่อง ระบาดอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ (ครับ อาจารย์) พวกเขาทำสิ่งที่พวกเขาทำได้ พวกเขาต้องหามันในใจของพวกเขา ให้จริงใจ และถ่อมตน เพื่ออธิษฐานขออภัยโทษ และเปลี่ยนเป็นวีแกน เพื่อเสริมการสำนึกผิดของพวกเขา เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาสำนึกผิดจริง ๆ และต้องการเป็น มนุษย์ที่ดีขึ้น (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ความคิดเชิงลบใด ๆ ที่ไม่ดีงาม ไม่สูงส่ง ไม่เมตตา ไม่ดี ทั้งหมดนั่น มันก็ต้องสำนึกบาปเช่นกัน
( นั่นฟังดูเหมือน หลังจากทุกคนสำนึกผิด อาจารย์ครับ พวกเขาจะต้อง รักษาวิธีการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบนั้นไว้ [วิถีชีวิต] ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป ) ใช่ แน่นอน แน่นอน นั่นคือความหมายของการสำนึกผิด (ครับ) และขออภัยโทษ ถ้าคุณทำมันอีกครั้ง แล้วคุณจะสำนึกผิดไปทำไมและ คุณจะขออภัยโทษไปทำไม? คุณได้รับการให้อภัยไปตลอดกาลไม่ได้ ฉันหมายถึงผู้คนต้อง หันกลับและดำเนินตาม วิถีชีวิตที่เมตตานั้นต่อไป (ค่ะ/ครับ อาจารย์) และตระหนักในศีลธรรม (ครับ) แค่อ่านพระคัมภีร์ไบเบิล ง่ายมาก พระบัญญัติสิบประการ อ่านพระสูตรของศาสนาพุทธ และ พระบัญญัติห้าหรือสิบประการ ห้านั้นสั้นที่สุด แต่ยังครอบคลุม พระบัญญัติสิบประการด้วย […]
แต่มันคล้ายกันหมด ฉันหมายถึง ถ้าคุณรักษา ศีลห้า ของศาสนาพุทธ นั่นควรจะโอเค และคุณต้องระมัดระวังอย่างแท้จริง มิฉะนั้น จิตใจ มักจะเร่ร่อน หรือบอกคุณ ให้ทำเช่นนี้ ทำอย่างนั้น และพลังด้านลบ อยู่รายรอบ กระซิบข้างหูคุณเสมอ ล่อใจให้คุณทำผิด คุณต้องเก็บพระเจ้า ไว้ในใจคุณเสมอ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นลูกศิษย์ของฉัน นี่คือสิ่งที่ หัวหน้าโควิด บอกฉัน - ที่เหล่าลูกศิษย์ของฉันได้รับการละเว้น คนอื่น ๆ ไม่ ไม่ใช่ฉันที่พูดแบบนั้น ลองนึกภาพ ถ้าฉันต้อง รับเอาโลกทั้งใบ มาเป็นลูกศิษย์ของฉัน มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะรอดมั้ย ถ้าทุกคนมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ดังนั้น มันไม่ใช่ว่าฉันอยาก โฆษณาให้ตัวเอง (ใช่ครับ อาจารย์) […]
มันยากมากแน่นอน ที่ผู้คนจะเข้าใจ สิ่งที่พวกเขาต้องกลับใจ (ค่ะ) แต่แค่เปลี่ยนวีแกนก่อน แล้วสิ่งต่าง ๆ ก็จะกลายเป็น ชัดเจนมากขึ้น (ใช่แล้วครับ อาจารย์ ค่ะอาจารย์) คุณก็ใจดีมากขึ้น เมตตามากขึ้น เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ไปโดยปริยาย (ครับอาจารย์) และมีเมตตากรุณามากขึ้น ต่อผู้อื่นทั้งหมด เข้าใจมากขึ้น และมีความเห็นอกเห็นใจ กับความทุกข์ยากของพวกเขา (ครับ) มันเป็นเช่นนั้น […] คุณก็ยิ่งอ่อนไหวมากขึ้น (ค่ะ) แล้วก็ คุณจะได้สัมผัสอิสระ ที่แท้จริงมากขึ้น ความเมตตา การรู้แจ้ง ความปรารถนาทางจิตวิญญาณ ความปรารถนาพระเจ้า ความปรารถนาสวรรค์ ทั้งหมดที่จะมา ถ้าคุณเปลี่ยนวีแกนอย่างน้อยก่อน แล้วอธิษฐานต่อพระเจ้า ให้ชี้นำคุณต่อไป […]
มันเพียงเพื่อคนทั้งหลาย แท้จริงเพื่อให้โลกได้เข้าใจ จากนั้นให้ตื่นขึ้น (ครับ อาจารย์) แค่พยายามให้ดีที่สุดด้วยความจริงใจ ว่า “ฉันทำผิดอะไรไป ได้โปรด ฉันสำนึกผิดอย่างจริงใจ และสิ่งที่ฉันรู้ว่าผิด ฉันจะไม่ทำมันอีก เพียงยกโทษให้ฉัน” และเปลี่ยนเป็นวีแกน (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระเจ้าจะทรงช่วยถ้าคุณขออย่างจริงใจ (ครับ อาจารย์) แม้แต่มนุษย์อย่างเรา เมื่อเราหลงทาง หรือเราทำงานหนักบางอย่างไม่ได้ หรืออะไร เราขอร้องมนุษย์อีกคนหนึ่ง และเขาหรือเธอจะช่วย พระเจ้าจะไม่ทรงช่วยได้อย่างไร ถ้าคุณจริงใจและ ต้องการมากจริง ๆ? (ใช่ครับ ค่ะ/ครับอาจารย์) ฉันแค่กังวลว่าเราไม่จริงใจ ดังนั้น ได้โปรดสำนึกผิดอย่างจริงใจ ขออโหสิกรรมอย่างจริงใจ และเป็นวีแกนที่จริงใจ
สำนึกผิดต่อบาปอย่างจริงใจ อธิษฐานขออภัยโทษอย่างจริงใจ วีแกนที่จริงใจ สามสิ่ง แม้แต่หัวหน้าโควิด จะยินยอมให้คุณบ้าง เพื่อที่คุณจะได้รับความช่วยเหลือ เพื่อช่วยตัวเองให้พ้นจากนรก เพื่อให้คุณไม่ต้อง ไปลงนรก และคุณไม่ ไม่ต้องมาเกิดใหม่ด้วยซ้ำ เป็นมนุษย์ที่ต้องทนทุกข์อีกครั้ง หากคุณกลับใจเป็นวีแกน อธิษฐานขออโหสิกรรมอย่างจริงใจ และจำชื่อของฉันไว้ แม้ว่าคุณจะไม่ขอการประทับจิต หรือเป็นลูกศิษย์ของฉัน ฉันยังคงสามารถช่วยคุณได้ ฉันพูดได้แค่นี้ ให้กับผู้คนทั่วโลกที่ข้างนอกนั่น มากกว่านี้ฉันไม่สามารถทำได้ พวกเขายังต้องช่วยเหลือตัวเอง (ค่ะ/ครับ อาจารย์) […]
ดังนั้น พยาบาลคนนั้นได้รับอนุญาต มาเกิดใหม่อีกครั้งใน 72 ปี ในขณะนั้นโลก ก็หายไปเยอะแล้ว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอีกต่อไป และเขาจะสบายดี เขาไม่ต้อง ทำงานหนักอีกต่อไป หรือเสียสละมากเกินไปอีกต่อไป (ใช่ครับ) แต่เขามีได้แค่นั้น เขาได้รับอนุญาตให้อยู่บนสวรรค์ เป็นเวลา 72 ปีเท่านั้น เพราะเขาดีมาก ใจดีมาก ทำเกินหน้าที่ของเขา (ใช่ค่ะ) แค่เขาไม่ใช่วีแกน ดังนั้นเขาจึงอยู่บนสวรรค์ตลอดไปไม่ได้ ดังนั้น ความเมตตาและความรัก ความชอบ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น นั้นไม่พอ มันไม่ใช่เงื่อนไขที่เพียงพอ ที่จะรับประกันว่าคุณอยู่บนสวรรค์ได้ ตลอดไป แต่นั่นก็ดีอยู่แล้ว (ค่ะ/ครับ อาจารย์) 72 ปีในสวรรค์ […]
ในปี 2099 โลก จะไม่มีโควิดอีกต่อไป ถูกต้องไหม? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ดังนั้นเขาจะเกิด ก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้ว (ครับ) (ค่ะ/ครับ) มันลดน้อยลง โควิด ว้าว นาน 77 ปี เกือบหนึ่งศตวรรษแล้ว (ครับ) เราจะไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป เราแค่พยายามช่วยชีวิตผู้คนในตอนนี้ ไม่รอให้ถึงเวลานั้น เมื่อ 91% หายไปทั้งหมด (ค่ะ/ครับ) ฉันบอกคุณทั้ง ๆ ที่รู้เรื่องนั้น แต่จะได้รับการยืนยันจาก หน่วยงานข้อมูลที่เชื่อถือได้ประเภทนี้ มันทำให้ฉันตกใจมากเช่นกัน […]
มีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่? […] ( ก็จนถึงปี 2099 ครับอาจารย์ อากาศจะเปลี่ยนแปลงไหม ผลกระทบจากภัยพิบัติยังคงเพิ่มขึ้น? ) […] ฉันไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันก็แค่คุยกับ หัวหน้าโควิด ฉันไม่ได้พูดถึงสภาพอากาศ ฉันไม่ได้คิดเกี่ยวกับ อากาศในขณะนั้น แต่แน่นอน คุณคิดอย่างไร? (ครับ อาจารย์) ถ้าไม่ตายเพราะโควิด แล้วคุณจะตายเพราะอย่างอื่น อากาศเปลี่ยนแปลง ร้อนจัด เรื่องแบบนั้นทั้งหมด (ครับ อาจารย์) […]
ชีวิตเป็นเช่นนั้นไม่เที่ยงอย่างมาก ใคร ๆ ก็คิดว่า พวกเขาจะอยู่ที่นี่ตลอดไป และพวกเขากำลังกักตุนสิ่งของ หรือพวกเขากำลังต่อสู้และขโมย และข่มขู่ซึ่งกันและกัน ด้วยกำลังและ... แทนการใช้เงิน เพื่อพลเมืองของตน พวกเขาใช้มันเพื่อพัฒนา อาวุธร้ายแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเพื่อฆ่าพลเมืองคนอื่น คุณต้องพัฒนาให้ไปถึงจุดที่ พลเมืองของประเทศอื่น ก็เป็นเหมือนกับพลเมืองของคุณ (ครับ อาจารย์) คุณต้องดูพวกเขา ว่าเป็นเหมือนพลเมืองของคุณ คิดถึงความทุกข์ของพวกเขาและ ความยากลำบากของพวกเขาถ้าคุณ ทำสงครามดังนั้นคุณต้องปกป้องพวกเขา และช่วยพวกเขา จากความทุกข์ทั้งปวงนั้น
เราทุกข์ทรมานมากพอแล้ว (ค่ะ/ครับ อาจารย์) จากทุกทิศทุกทาง โรคที่ไม่รู้จักทุกชนิด และกำลังจะมาอีกมาก! (พระเจ้า) ทั้งที่พวกเขารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว เพราะพวกเขาทำนายว่า สายพันธุ์ใหม่จะตามมา และวัคซีนจะทำอะไรมันไม่ได้ โดยสิ้นเชิง แล้วตอนนี้มีประโยชน์อะไร? (ครับ) เสียเงินมากมาย เพื่อพัฒนาและผลิตขึ้น แล้วมันก็ไร้ประโยชน์ (ใช่ค่ะ) ถ้าเราไม่มีบุญ และความถ่อมตนที่จะมี การปกป้องจากสวรรค์ แล้วไม่มีอะไรที่ใช้การได้ (ครับ ท่านอาจารย์) แม้แต่หมอที่ดีที่สุด ก็ไม่สามารถรักษาคุณได้ […]
ข้อความต่อไปนี้ จากท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ถึงลูกศิษย์ของท่าน
ผู้ประทับจิตผู้เป็นที่รักที่สุดทุกคน แม้ว่าคุณไม่บำเพ็ญ สิ่งที่ฉันได้สอนคุณไป ในระหว่างช่วงเวลาของการประทับจิต โปรดฟัง โรคระบาดเป็นเพียงส่วนหนึ่ง มนุษย์จำนวนมาก หรือมนุษย์ส่วนใหญ่ จะไม่มีชีวิตรอด จุดจบจะมาถึง เร็วขึ้นด้วยซ้ำ เร็วแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับ ความประพฤติของมนุษย์ ความสำนึกผิดและกลับตัวหรือไม่ แต่คุณ ที่เรียกว่า ลูกศิษย์ประทับจิตของฉัน ได้โปรด ดูแลตัวเองให้ดี โปรดให้แน่ใจ ว่าอาหารของคุณเป็นวีแกนบริสุทธิ์ ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่ ถ้าคุณไม่แน่ใจ ถ้าสงสัย อย่ากินมันดีกว่า คุณไม่จำเป็นต้องแม้แต่ จะซื้อเนื้อสัตว์ จากพืชเหล่านี้ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ชาวสัตว์ ทดแทน คุณเพียงทานผักต่าง ๆ ผักอะไรที่คุณหาได้ และผักอะไรที่มีอยู่ ในภูมิภาคของคุณ พวกมันมีสารอาหารมากมาย โปรตีน และอะไรก็ตามที่จำเป็น ต่อสุขภาพของคุณอยู่แล้ว
เพียงอธิษฐานก่อนคุณทาน ถวายอาหารมื้อนั้น ๆ ให้แก่เหล่านักบุญและนักปราชญ์ของ ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต และทานด้วยความรู้สึกขอบคุณทั้งหมด และความสุขในหัวใจคุณ ความขอบคุณและความสุข ในหัวใจคุณ ที่คุณยังมีบางสิ่ง ที่บำรุงเลี้ยงร่างกายของคุณ อย่าทานอะไร ที่ไม่ใช่วีแกน และอธิษฐานเสมือนว่าคุณกำลังตาย อธิษฐานเสมือนว่าคุณต้องการอากาศ เพื่อมีชีวิต อธิษฐานเสมือนว่าคุณกำลัง จมน้ำ ทำสมาธิให้มากเท่าที่คุณทำได้ มากกว่า สองชั่วโมงครึ่ง ถ้าคุณทำได้
อธิษฐานในใจคุณ ทำสมาธิด้วยความพากเพียรทั้งหมด ได้โปรด ฉันบอกคุณได้แค่นี้ ฉันบอกไม่ได้มากกว่านี้ ชั่วโมงนั้น จุดจบ อาจจะมาถึง เร็วกว่าที่คุณคาดคิด กว่าที่ใคร ๆ คาดคิด แม้ว่าคุณเป็นลูกศิษย์ของฉัน คุณต้องขยันขันแข็ง บำเพ็ญให้ดี และถ้าคุณทำได้ บอกญาติของคุณทุกคน และเพื่อน ๆ ให้เป็นวีแกน และอธิษฐานให้พวกเขาอยู่รอด ถ้าพวกเขายังฟัง สิ่งนี้ สำหรับคุณเท่านั้น เพราะโลกข้างนอกนั้น ไม่ฟังฉันมากนัก
หัวใจของฉันเจ็บปวดแทนพวกเขาทุกคน แต่ถ้าพวกเขาได้เลือกที่จะไป กับด้านลบ มันก็จะไม่มีอะไรมากกว่านี้ ที่ฉันทำได้สำหรับพวกเขา ฉันทำสมาธิดี อย่างพากเพียร ฉันทำงานของฉันในการเผยแพร่ คำสอนของเหล่านักบุญและ พระพรของพระเจ้าผ่านโทรทัศน์ แต่ฉันก็ยังอธิษฐานให้พวกเขา ให้ทุกคน อย่างไรก็ตาม คุณ ที่เรียกว่า ลูกศิษย์ของฉัน ได้โปรด ขยันขันแข็ง ไม่ใช่แค่ช่วยตัวเอง แต่อาจจะให้ยืม พรน้อย ๆ ของคุณจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือคนรอบข้างคุณ จุดจบอาจมาเร็ว กว่าที่คุณคิด เร็ว ๆ นี้ เร็วเกินไป โปรดฟังคำพูดของฉัน แม้ว่าตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา คุณอาจไม่เห็นคุณค่า ของคำสอนของฉัน โปรด ฝึกบำเพ็ญตอนนี้ โปรดนั่งสมาธิ
จุดจบจะมาถึง เร็วเกินไป เร็วขึ้น เร็วเกินไป ถ้ามนุษย์ไม่เปลี่ยนแปลง ให้มีความเมตตากรุณามากขึ้น เป็นวีแกนและสำนึกผิด การกระทำผิดทั้งหมดของพวกเขา ไม่ว่า พวกเขารู้หรือไม่รู้ พวกเขาควรกลับใจและเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเปลี่ยนไปสู่ วิถีชีวิตที่เมตตากรุณา สู่วิถีชีวิตการกินอาหารวีแกน แต่บางทีพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มาก แล้วจุดจบจะมาถึงเร็วกว่านี้ เร็วเกินไป เร็วเกินไป กรุณาดูแลตัวเองด้วย ดูแลตัวเองอย่างดี ทางจิตวิญญาณ นั่งสมาธิ เป็นวีแกนบริสุทธิ์ และอธิษฐาน ได้โปรด
คุณเห็นไหม มันไม่ใช่แค่การระบาดใหญ่เท่านั้น ส่วนโรคระบาดคือ เพื่อไล่ตาม เพื่อติดตาม เพื่อล่ามนุษย์เลวทั้งหมด จนถึงคนสุดท้าย แต่ถ้าพวกเขายังรอด สิ่งอื่น ๆ เช่น ภัยพิบัติ ที่จะมาจากฟากฟ้า ดาวหาง ยกตัวอย่าง และภัยพิบัติอื่น ๆ ที่จะทำลายมนุษย์ และโลก ดังนั้น โรคระบาด ไม่ใช่สิ่งเดียว ที่คุณควรกังวล นั่นคือทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดกับคุณได้ จุดจบอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่มีใครมีเวลาเตรียมตัว ถ้าพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลง และผู้รอดชีวิตใด ๆ จากภัยพิบัติที่มนุษย์สร้าง หรือที่สวรรค์สร้างทั้งหมดเหล่านี้ จะถูกตามล่า จะถูกล่า จนถึงคนสุดท้าย
ครั้งนี้ไม่มีใครหนีพ้น พวกเขาสัญญาว่าจะไว้ชีวิตคุณ คนที่เรียกว่า ลูกศิษย์ของฉัน แต่คุณต้องเป็นคนดี คุณต้องเป็นมนุษย์ที่ดีจริง ๆ ผู้บำเพ็ญที่ดี แม้ว่าหลายปีนี้ คุณทำไม่ได้ ยังมีเวลา ยังมีเวลาชดเชยมันได้ โปรดสำนึกผิด กลับใจอย่างจริงใจด้วยหัวใจ ของคุณทั้งหมดและทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ฉันหมายถึง เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และเร็ว มิฉะนั้น คุณจะไม่ถูกนับ ว่าเป็นคนที่เรียกว่า ลูกศิษย์ของฉัน ได้โปรด ได้โปรด ฉันรักคุณ พระเจ้ารักคุณ ได้โปรด ดูแลตัวเองดี ๆ ขอบคุณ
Host: ท่านอาจารย์ผู้เมตตาที่สุด ไม่มีคำพูดขอบคุณใด ๆ เพียงพอที่จะสื่อ ถึงความขอบคุณลึกซึ้งของเรา สำหรับการปรากฏอยู่ อันมีค่าที่สุดของท่านในโลกเรา และสำหรับงานหนักของท่าน ที่จะช่วยมัน เราอธิษฐานอย่างสุดซึ้งให้มนุษยชาติ ฟังการชี้นำ ด้วยความรักของท่านอาจารย์ เพื่อการอยู่รอดของพวกเรา ขณะที่เราทุกคนรับรู้ถึง สถานการณ์อันตรายของดาวเคราะห์เรา และการเป็นวีแกนวันนี้ มนุษย์จะสามารถก้าวกระโดด ไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของเรา ยอมรับพระหัตถ์แห่งการให้อภัย ของพระเจ้าที่ทรงยื่นมาให้ ขอให้ท่านอาจารย์ผู้เป็นที่รักอยู่ดี และปลอดภัยเสมอ ในการคุ้มครอง อันทรงพลังของสวรรค์ทั้งหมด
เพื่อฟังคำอธิบายเกี่ยวกับ ภัยคุกคาม ต่อโลกของเราเพิ่มเติม ของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ รวมทั้งโรคลึกลับ ที่ถ่ายทอดได้ ผ่านพลังงานที่มองไม่เห็น โปรดติดตาม ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ ในวันพุธที่ 16 มีนาคม 2022 สำหรับการออกอากาศเต็มรูปแบบ ของการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ สำหรับการอ้างอิงของคุณ โปรดตรวจสอบ ข่าวฟลายอิน ที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้/ การประชุมต่าง ๆ ในระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ เช่น:
ข่าวฟลายอิน:
ความเมตตาแท้จริงและ การตื่นรู้คือทางออก
สละเนื้อสัตว์ เพื่อโลกอันสงบสุข และดาวเคราะห์ที่แข็งแรง
ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์:
เมื่อความซื่อสัตย์สูญสิ้น: สัญญาณของชั่วโมงสุดท้าย จากหะดีษ
บาทหลวงคาทอลิกควรเทศนา พระวรสารที่แท้จริงของพระเยซูเจ้า
ตำแหน่งนักบุญที่แท้จริง
การเป็นวีแกนนำมา ซึ่งความรักและความเมตตาของเรา
การเสียสละอันรุ่งโรจน์เพื่อมนุษยชาติ ของพระเยซูคริสต์