ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

กินตามกรรมของคุณ ตอนที่ 2 จาก 6 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม

ดังนั้น ถ้าคุณต้องการหลุดพ้น จากความทุกข์ทรมาน ตลอดไปจริง ๆ และ ไปสู่มิติที่สูงกว่าเพลิดเพลิน กับความผาสุก ความสุข และการหลุดพ้นที่แท้จริง คุณจะต้องไปไกลกว่า ไตรภูมิที่มองไม่เห็น ตั้งแต่โลกทิพย์จนถึงโลกพรหม […] ถ้าคุณพบอาจารย์เช่นนั้น และระดับของคุณยังต่ำเกินไป – ตัวอย่างเช่น คุณสามารถไปถึง เฉพาะไตรภูมิได้เท่านั้น ไม่เกินจากนั้น – แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าอาจารย์ของคุณ เป็นผู้รู้แจ้งอย่างแท้จริง และ เป็นอาจารย์ที่แท้จริงและ ทรงพลัง เขา/เธอ ยังคง สามารถอวยพรและสอนคุณต่อไปได้ จนกว่าคุณจะกระโดดไปเหนือ ไตรภูมิที่ถูกทำลายล้างได้ […]

การทำร้ายใด ๆ ก็ตามที่คุณสามารถ หลีกเลี่ยงที่จะทำกับผู้อื่นได้ นั่นเป็นประโยชน์มากกับคุณ มันจะนำผลบุญมาให้คุณ มันจะชำระล้างกรรมของคุณ แต่นั่นไม่ใช่หนทาง สู่การหลุดพ้นสูงสุดหรือพุทธภาวะ หรือการกลับบ้านไปหาพระเจ้า หรือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ชาติแล้วชาติเล่า เรารับและให้ จากสรรพชีวิตต่าง ๆ ในหลายชาติมากมายของเรา และการให้และรับ ยังคงดำเนินต่อไปในชาตินี้ ดังนั้น อะไรก็ตามที่คุณคิดว่า คุณสามารถจ่ายและใช้ได้ เช่น อาหาร เสื้อผ้า เพียงแค่ทำอย่างพอดี แต่อย่าบังคับตัวเอง จงอย่าสุดขั้ว หากฉันต้องทานมากกว่าวันละครั้ง ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจะต้องทำ ตามกรรมกำหนด บางทีกรรมก็มากไป ในคราวเดียว มันท่วมท้น ฉันต้องทำสิ่งที่ฉันต้องทำ

แต่ทำไมฉันชอบกินมื้อเดียวต่อวัน? ยกตัวอย่าง ระหว่างฌานสามเดือน ฉันกินแต่: งา ข้าวกล้อง เกลือและน้ำ – ไม่มีอย่างอื่น ไม่แม้แต่ผลไม้ หรือสิ่งอื่นใด เพียงเพราะมันง่ายกว่า ที่จะใช้ชีวิตแบบนั้น และคุณยังอยู่รอดได้ และระหว่างฌาน เป็นเรื่องยากมากที่จะมีคน คอยนำอาหารมาให้คุณ เพราะคุณต้องการอยู่ในความสงบ ส่วนตัว และในความเงียบ อยู่คนเดียวเพื่อพิจารณาถึง ความมั่งคั่งทางจิตวิญญาณภายใน ใกล้ชิดพระเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ทุกภาวะยุ่งยากที่เกิดจาก อาหาร หรือเสื้อผ้าจะดีกว่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า มันถูกห้าม

แต่ถ้าฉันต้องกินมากกว่า หนึ่งครั้งต่อวัน ตามพระประสงค์ ของพระเจ้า ตามคำสั่งของสวรรค์ หรือตามกรรมของโลก ฉันจะทำเช่นนั้น ฉันไม่ได้ยึดติดกับอาหารมื้อเดียว หรือหลายมื้อต่อวัน สิ่งใดก็ตามที่เป็นพระประสงค์ ของพระเจ้า ฉันจะทำมัน ดังนั้นตอนนี้ ถ้าคุณคิดว่า พระเจ้าต้องการให้คุณกินวันละครั้ง แน่นอน – ถ้าพระเจ้าบอกคุณ หรือถ้าคุณคิดตามสัญชาตญาณ ว่านั่นคือวิธีที่คุณ ควรดำเนินชีวิต ก็ขอให้ลองทำ แต่ควรระวัง และ คอยสังเกตอยู่เสมอว่า ร่างกาย จิตคิด จิตใจ สภาพร่างกาย อารมณ์ สภาพจิตใจ สติปัญญา ฯลฯ ของคุณ จะเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณ กำลังทำอยู่หรือไม่ มิฉะนั้นคุณอาจ ทำร้ายตัวเองได้

บางคนก็ ทำสุดขั้ว เช่น ไปเป็นนักกินอากาศ โดยจะมีคุรุหรือไม่ก็ตาม และบางคนก็เสียชีวิต อย่างน่าเศร้า คุณต้องมีร่างกายนี้ เพื่อที่จะบำเพ็ญตาม คำสั่งสอนของอาจารย์ ของคุณต่อไป - เพื่อที่คุณ จะได้เข้าถึงมิติ ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ในสวรรค์ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ บนโลกนี้ เพื่อที่คุณ จะได้ปลดปล่อยตัวเอง คนอื่น ๆ ในหลายชั่วอายุคนของคุณ และอวยพรสิ่งรอบข้าง อวยพรโลกในเวลาเดียวกัน ดังนั้นช่วงเวลาในการบำเพ็ญของคุณ จึงมีความสำคัญมาก อย่าพยายามทำให้ชีวิตสั้นลง ด้วยอุดมคติหรือการปรุงแต่งใด ๆ หรือความคิดที่หลงผิด เช่น การเป็นนักพรต จะทำให้คุณหลุดพ้น ไม่ ไม่ คุณต้องทำอย่างถูกต้อง ไม่ว่าคุณจะเกิดมาเพื่อทำสิ่งนั้น

และแม้กระทั่งการทำสมาธิ – ไม่ใช่แค่การทำสมาธิเท่านั้น ที่จะทำให้คุณหลุดพ้น ฉันสังเกตทั่วทั้งโลก ผู้คนนั่งสมาธิในทุกรูปแบบ ในเรื่องต่าง ๆ พวกเขาส่วนใหญ่ได้รับวิธีที่ผิด จากอาจารย์ระดับล่าง และไม่สามารถ ข้ามไปเหนือโลกที่สามได้ อาจารย์ระดับต่ำที่ผิด ทำร้ายคุณได้ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ใช่แค่ทางจิตวิญญาณ!!! และถ้าคุณไม่สามารถ ข้ามโลกที่สามได้ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องกลับ มาสู่ร่างกายภาพ ชีวิตทางกาย ไม่ว่าจะบนดาวเคราะห์นี้ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่นในจักรวาล นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ แม้แต่ปีศาจก่อกวน หรือปีศาจในโลกอสูรจำนวนมาก ก็แสดงตนเป็นนักบวช หรือพระภิกษุ และแม่ชี เป็นอาจารย์ทางจิตวิญญาณ และชักนำสิ่งมีชีวิต จำนวนมากมาย ๆ ๆ ให้หลงไปสู่ วิถีทางจิตวิญญาณหรือเส้นทาง ที่ต่ำกว่า ฉันเห็นแล้วรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่กรรมใดก็ตามที่คุณมี ชีวิตของคุณก็จะดำเนินไปแบบนั้น เว้นเสียแต่ว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อคุณได้พบกับอาจารย์ผู้รู้แจ้ง และได้รับวิธีทำสมาธิ ทางจิตวิญญาณที่แท้จริง ปลอดภัย และรับประกันได้ เพื่อนำคุณไปสู่ความหลุดพ้น ที่แท้จริงเหนือไตรภูมิ

จริง ๆ เราสามารถพูดได้ว่า โลกที่สี่ เมื่อรวมทั้ง ทั้งโลกมนุษย์ด้วย โลกมนุษย์ โลกทิพย์ โลกเหตุและผล และโลกพรหม– โลกเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกทำลาย ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ในศัพท์ทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงเรียกมันว่า “ไตรภูมิ” – ซึ่งหมายถึง โลกทางกายภาพที่เราสามารถ มองเห็น สัมผัส ได้ยิน แต่การกำหนดรู้ไม่ได้รวมอยู่ด้วย มันแตกต่าง ไตรภูมิอื่น ๆ เช่น โลกทิพย์ โลกเหตุและผล และ โลกพรหมนั้น ไม่สามารถ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บางครั้งคุณสามารถเห็นพวกเขาได้ มันขึ้นอยู่กับกรรมของคุณ และการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณ ในอดีตชาติของคุณ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่เห็นไตรภูมิ ระดับชั้นเหล่านี้ คือ ไตรภูมิ ที่คุณต้องผ่านเหนือขึ้นไป เพื่อที่จะหลุดพ้น นั่นหมายความว่าคุณจะไม่ได้ กลับมายังโลกทางกายภาพนี้ หรือโลกทางกายภาพ อื่นใดอีกเลย – ไม่กลับมาเป็นมนุษย์ (ชาว) สัตว์ ต้นไม้ พืช หรืออะไรก็ตามอีก หรือแม้แต่ปีศาจ ผี หรือตัวตนในนรก ดังนั้น ถ้าคุณต้องการหลุดพ้น จากความทุกข์ทรมาน ตลอดไปจริง ๆ และ ไปสู่มิติที่สูงกว่าเพลิดเพลิน กับความผาสุก ความสุข และการหลุดพ้นที่แท้จริง คุณจะต้องไปไกลกว่า ไตรภูมิที่มองไม่เห็น ตั้งแต่โลกทิพย์จนถึงโลกพรหม

เป็นเรื่องยากมาก ที่คุณจะพบอาจารย์ ที่จะนำคุณไปไกลกว่าไตรภูมิ ถ้าคุณพบอาจารย์เช่นนั้น และระดับของคุณยังต่ำเกินไป – ตัวอย่างเช่น คุณสามารถไปถึง เฉพาะไตรภูมิได้เท่านั้น ไม่เกินจากนั้น – แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าอาจารย์ของคุณ เป็นผู้รู้แจ้งอย่างแท้จริง และ เป็นอาจารย์ที่แท้จริงและ ทรงพลัง เขา/เธอ ยังคง สามารถอวยพรและสอนคุณต่อไปได้ จนกว่าคุณจะกระโดดไปเหนือ ไตรภูมิที่ถูกทำลายล้างได้ แต่ด้วยการบำเพ็ญทุกรกิริยา คุณย่อมไปไม่ถึงที่นั่น คุณต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์และมุ่งมั่น ถ้าคุณทำได้ มันก็ยังยากมาก ๆ เพราะในขณะที่คุณ กำลังบำเพ็ญแบบนั้น คนอื่นรอบตัวคุณ จะทำให้คุณไม่บริสุทธิ์ ด้วยพลังงาน กรรมของพวกเขา การเชื่อมต่อของพวกเขากับคุณ จะสร้างปัญหา และ จะไม่ยอมให้คุณได้รับการยกระดับ ขึ้นสู่มิติที่สูงขึ้น เว้นแต่ว่าคุณจะเชื่อมต่อ กับมิติที่สูงขึ้นแล้ว เช่น ผ่าน ธรรมวิถีกวนอิม ที่ฉันบอกคุณไป มันคือพระวจนะที่ถูกต้อง โดยตรง เพื่อไปสู่มิติที่สูงกว่า คุณจะไปช้า ไปเร็ว – ขึ้นอยู่กับคุณ แต่มันคือการเชื่อมต่อโดยตรง กับโลกที่สูงกว่า คุณจะไปถึงการหลุดพ้น อย่างแน่นอน – รับประกัน – หรือแม้แต่เป็นพุทธะ ในชาตินี้ ถ้าคุณเป็นผู้สูงส่ง บริสุทธิ์อย่างแท้จริง และบำเพ็ญมาตลอดหลายพัน ชั่วกัปชั่วกัลปาวสาน โดยไม่ (เกิด) ผล

แม้แต่ (ชาว) สัตว์ ก็บำเพ็ญเช่นกัน ชาวงูบางตัวก็นั่งสมาธิเช่นกัน พวกเขาฝึกฝนเป็น อย่างดีมาก ขยันขันแข็งมาก แล้วพวกเขาก็จะ กลายเป็นมนุษย์ หรือ ปรากฏเป็นมนุษย์ได้ ในระยะสั้นหรือตลอดไป แต่นั่นแตกต่างออกไป - การฝึกเพียงเพื่อกระโดด จากระดับสายพันธุ์หนึ่ง ไปอีกสายพันธุ์หนึ่ง - ไม่ใช่เพื่ออยู่ในสวรรค์ที่สูงขึ้น หรือเพื่อหลุดพ้น กลายเป็นพุทธะ หรือเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า - นั่นคือหนทางสูงสุด ที่คุณสามารถปรารถนาได้ เช่นเดียวกับในวิถีกวนอิม คุณเชื่อมต่อโดยตรงกับ มิติที่สูงที่สุดที่เป็นไปได้ และคุณสามารถไปถึง ช่วงใดก็ได้ของถนนสายนั้น มันขึ้นอยู่กับกรรมของคุณ กรรมในอดีตชาติ การบำเพ็ญ ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ของคุณ และ พรจากสวรรค์ทั้งหมดที่ พยายามดูแลคุณอยู่เสมอ

ตอนนี้ ถ้าคุณบำเพ็ญคนเดียว คุณไม่ใช่อาจารย์ มันค่อนข้างง่าย ทั้งหมดที่คุณต้องทำ คือแค่รับการประทับจิต จากอาจารย์ด้วยใจปรารถนา ที่จะกลับบ้าน ปรารถนา ที่จะรู้จักพระเจ้า แล้วคุณจะได้รับมันในที่สุด อย่างแน่นอน รับรอง 100% จริงและแน่นอน วิธีอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับอาจารย์ ที่บรรลุระดับ ที่สูงกว่าหรือไม่ แม้แต่ในวิถีกวนอิม ถ้าบางคนเรียนรู้ เพียงครึ่งทาง - ครึ่ง ๆ กลาง ๆ หรือเพียงเล็กน้อย และคิดว่านั่นคือทั้งหมด เพราะเขา/เธอ ไม่เห็นงานภายใน ก่อนและหลังของอาจารย์และ ณ เวลา ประทับจิต ไม่มากไปกว่า การสื่อสารเงียบ ๆ การถ่ายทอดเงียบ ๆ - คนที่เรียกว่า ลูกศิษย์ จะยังคงได้รับ แสงแห่งสวรรค์ภายใน และพระวจนะแห่งสวรรค์ภายใน หรือคุณเรียกว่าเสียง หรือคุณเรียกว่าการสั่นสะเทือน

ฉันหมายถึงแม้ในร่างทางกายภาพ คุณสามารถมองเห็นสวรรค์ คุณสามารถได้ยินพระวจนะของ พระเจ้า ความสั่นสะเทือนของ โลกต่าง ๆ และคุณจะรู้สึก รู้แจ้งมากขึ้น ๆ ทุกวัน และ รู้สึกสบายมากขึ้น ๆ ในขอบเขตทางกายภาพ นั่นก็เพราะว่าอาจารย์ ป้อนพลังทางจิตวิญญาณให้กับคุณ ค่อยเป็นค่อยไปจนคุณเติบโตและ ปลอดภัยในแดนสวรรค์ ดังนั้น อย่าพยายามพึ่ง การบำเพ็ญทุกรกิริยา เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณ ไม่ ถ้าคุณกำลังบำเพ็ญ วิถีกวนอิม คุณไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนั้น

นานมาแล้ว อาจารย์เซน ชาวจีน (หนานเยว่ ไห่ราง) เห็นว่า ลูกศิษย์ของท่าน (หม่าซู เต้าอี้) แค่นั่งอยู่บนพื้นในวัด และพยายามนั่งสมาธิ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และท่านใช้อิฐขัด ต่อหน้าเขา และเขาถามท่านว่า “ท่านคิดว่า ท่านกำลังทำอะไรอยู่?” เขาพูดว่า "ฉันกำลังพยายาม ทำกระจกอยู่" และเขาพูดว่า "ท่านไม่สามารถ ทำกระจกจากอิฐเหล่านี้ได้ ไม่ว่าท่านจะขัดมัน นานแค่ไหน" ท่าน (หนานเยว่ ไห่ราง) จึงบอกเขาว่า "ก็เช่นเดียวกัน - การนั่งอยู่ที่นั่น จะไม่ทำให้เจ้ารู้แจ้งได้" แค่นั่งเฉย ๆ ไม่ได้ เพราะท่านทราบว่า มีวิธีการแห่งการรู้แจ้งและ หนทางแห่งการรู้แจ้ง คุณต้องเดินไปตามเส้นทางนั้น ไม่เช่นนั้น คุณจะ ไปไม่ถึงที่ที่ต้องการ หรือต้องใช้เวลา หลายพันปี หรือหลายชั่วอายุคนจนกว่า คุณจะพบเส้นทางที่ถูกต้อง คุณเพียงแค่วิ่งไปรอบ ๆ เป็นวงกลม ในเขาวงกต นี่เป็นเรื่องยาก ที่จะบอกคนภายนอกได้ ถ้าพวกเขาไม่มี ประสบการณ์ภายใน แบบที่คุณมี ฉันก็แค่คุยกับคุณ อันที่จริง เพียงเพื่อเตือนคุณถึงสิ่งต่าง ๆ

Photo Caption: การต้อนรับในสถานที่ที่ไม่คาดคิด!

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (2/6)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์