ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

เรื่องราวของพระมหากัสสปะ(วีแกน) ตอนที่ 1 จาก 10 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
สวัสดีดวงวิญญาณที่สวยงามทั้งหลาย ที่ลงมาสู่โลกนี้ เพื่อทำประโยชน์แก่คนอื่น ๆ มากเท่าที่คุณสามารถทำได้ ตามพระคุณของพระเจ้า และพระประสงค์ของพระเจ้า ฉันดีใจที่คุณอยู่ในโลกนี้ และฉันรักคุณที่ทำเช่นนั้น และฉันขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น แม้ว่าคุณจะทำความดี เล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อผู้อื่น แม้ว่าคุณจะคิดว่ามันเล็กน้อย แต่อาจมีความหมายยิ่งใหญ่มหาศาล ต่อผู้รับ อย่างน้อยจิตวิญญาณของคุณบริสุทธิ์ จิตใจของคุณมีความเมตตา เพราะคุณกำลังบูชาพระเจ้า สรรเสริญมหาอาจารย์ทุกท่าน ขอบคุณวิญญาณที่สูงส่งทั้งหลาย ผู้ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อประโยชน์ของทุกคน

ฉันดีใจที่คุณอยู่ที่นี่กับฉัน มิฉะนั้นฉันคงอาจ รู้สึกหรือยังคง รู้สึกเหงามาก บนดาวเคราะห์ดวงนี้ เพราะเราอยู่ห่างไกลจากบ้าน ถึงจะไม่ไกล แต่เพราะระยะทาง ทางกายภาพ ทำให้เรารู้สึกว่าไกล แต่ตราบใดที่เรานั่งสมาธิสู่ภายใน เราก็สามารถติดต่อกับบ้านได้เสมอ หรือเยี่ยมเยียน บริเวณใกล้เคียงกับสวรรค์ของเรา เป็นระยะเวลาสั้น ๆ

ฉันอยากจะขอร้องคุณ โปรดช่วยฉันขอบคุณ พระมหากัสสปะด้วย เพราะฉันคิดว่า ฉันขอบคุณท่านไม่เพียงพอ ฉันอยากเล่าเรื่องของท่านให้คุณฟัง เพื่อว่าคุณบางคน ที่ไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร จะได้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รู้จักท่าน คุณทราบไหมว่าพระมหากัสสปะ เป็นอัครสาวกองค์หนึ่ง ของพระพุทธเจ้า ตอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ และท่านได้รับนามว่า “เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์” พระพุทธเจ้าทรงมีอัครสาวก สิบรูป และบางองค์มีฉายา อย่างเช่น พระมหากัสสปะ คือ “เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์" พระมหาโมคคัลลานะ คือ "เอตทัคคะในทางมีฤทธิ์" และพระอานนท์ผู้ยิ่งใหญ่คือ “เอตทัคคะในด้านความจำ” ยังมีอีกมาก พระสารีบุตรเป็นเลิศทางปัญญา เป็นต้น และตามตำนาน ทางพุทธศาสนา พระมหากัสสปะ - พระมหากัสสปะองค์จริงนั้น พระภิกษุ หนึ่งในอัครสาวก ของพระพุทธเจ้า- ยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ และนั่งสมาธิในสถานที่แห่งหนึ่ง อาจเป็นถ้ำบนภูเขา ซึ่งมีชื่อว่า ตีนไก่

ดังนั้นผู้ที่มอบพระบรมสารีริกธาตุของ พระพุทธเจ้าแก่ฉัน พี่สาวของคุณ อยากให้ฉันเปลี่ยนรูป ที่พวกเขาใส่ไว้ใน [สุพรีมมาสเตอร์ทีวี] ในตอนแรก- ภาพเหล่านั้นไม่ใช่ที่ พระมหากัสปปะให้ฉันมา เธอจึงอยากให้ฉัน เปลี่ยนเป็นรูปถ่ายจริง ฉันอยากเห็น (พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า) จริง ๆ ตอนนี้ แต่ฉันอยู่ไกลพอสมควร ฉันยังไม่สามารถไปที่นั่น ได้เร็วพอ นอกจากนี้ ฉันยังอยู่ในฌาน ฉันไม่ต้องการไปไหนไกลเกินไป ฉันไม่ควรทำ

เมื่อคุณเข้าฌาน คุณควรอยู่ในที่แห่งเดียว มีสมาธิอยู่ในที่ ๆ เดียว ให้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ บางทีคุณอาจอยู่ในสวน แต่ไม่พบใคร และไม่ให้ใคร พบคุณ เพื่อคุณจะได้ควบคุม พลังทั้งหมดของคุณ เพื่อจุดประสงค์พิเศษบางอย่าง หลายคนเข้าฌาน เพื่อเติมพลังให้แข็งแกร่ง และใช้ประโยชน์จากพลังทั้งหมด เพื่อที่พวกเขาจะได้ทำงาน บางอย่างให้สำเร็จ

เมื่อวานฉันได้พูดคุย กับชาวสุนัขของฉัน บางครั้งก็เป็นเพียงกระแสจิตเท่านั้น บางครั้งถ้าเป็นไปได้ก็ทางโทรศัพท์ และพวกชาวสุนัขก็รู้ถึง สิ่งที่ฉันได้เปิดเผยแก่คุณ ที่ฉันไม่อยากจะทำ ฉันไม่ต้องการที่จะเปิดเผย แต่พระเจ้าทรงให้ฉันทำ และหลังจากที่ฉันเปิดเผยสิ่งนี้กับคุณ ฉันก็ถามพระเจ้าอีกสามครั้งว่า เป็นสิ่งที่ ถูกต้องหรือไม่ – ที่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฉันกับคุณ หรือถ้าไม่ใช่ ก็ขอให้ฉันลบส่วนเหล่านี้ออก เพราะฉันไม่รู้ว่า ผู้คนจะมีปฏิกิริยาอย่างไร และฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับต่อ ปฏิกิริยาของพวกเขาอย่างไรด้วย ฉันเพียงรู้สึกไม่สบายใจ ที่จะพูดตรง ๆ สัตย์ซื่อ และเปิดเผยแบบนั้น เกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเป็น ในโลกทางกายภาพนี้ ฉันก็เหมือนกับคุณ แต่ฉันเชื่อมโยงกับ ตัวตนที่สูงกว่าของฉัน และนั่นเป็นสิ่งที่แตกต่าง ไม่เช่นนั้น ฉันคงไม่สามารถ มีแหล่งพลังพอ ที่จะทำงานของฉัน ซึ่งมีมากมาย เป็นงานที่หนัก หนักมาก ๆ

ฉันอยากจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับ พระมหากัสสปะ คุณจะได้รู้ว่า ท่านยิ่งใหญ่เพียงใด - แม้จะในฐานะมนุษย์ ในฐานะบุคคล ไม่ต้องพูดถึงในฐานะนักบุญ ท่านเป็นนักบุญจริง ๆ ท่านรักษาวินัยของท่าน ในพระพุทธศาสนา คุณมีวินัย ที่เข้มงวดมาก 13 ประการ ซึ่งคุณต้องปฏิบัติตามจึงจะเรียกว่า "เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์"

เช่น คุณไม่สามารถกินหลังเที่ยงได้ และคุณกินเพียงวันละครั้งเท่านั้น คุณมีผ้าของสงฆ์ สามผืนเท่านั้น และคุณต้องเก็บผ้า ที่ทิ้งตามถนน ในสุสาน หรือบริเวณขยะ ที่ผู้คนนำของไปทิ้ง ทำเสื้อผ้าใช้เอง คุณไม่สามารถสวมเสื้อผ้าใหม่ได้ คุณไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่ได้ คุณไม่สามารถรับเสื้อผ้า ที่ทำมาให้คุณได้ คุณต้องทำมันขึ้นเอง เก็บเสื้อผ้าจากทุก ๆ ที่ ที่คุณสามารถเก็บมาได้ แล้วเย็บ ติดกันเป็นชิ้น ๆ ให้เป็นเสื้อผ้าดี ๆ อุ่น ๆ ไว้คลุมตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี นั่นคือทั้งหมดที่คุณสามารถมีได้ และคุณมีบาตร สำหรับบิณฑบาต และหาให้ตัวเองฉันวันละครั้ง

และทุกวันนี้ยังมี พระหินยานที่ปฏิบัติ แบบเดียวกัน หรือคล้ายกันอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็กินทุกอย่าง พวกเขาไม่ได้จำกัดตัวเอง อยู่แค่วิถีวีแกน ซึ่งเป็นอาหารที่มีความเมตตา เพราะในตอนแรก ผู้คนพึ่งเข้ามา ไม่ชินกับอาหารวีแกน พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตให้พวกเขา ฉันเนื้อชาวสัตว์ สามชนิด อย่างเช่น เนื้อจาก ชาวสัตว์ที่คุณกิน คุณไม่ได้ยินเสียงร้อง ของพวกเขาเวลาตาย หรือชาวสัตว์ ที่คุณรู้ว่า เขา/เธอ ไม่ได้ถูกฆ่าเพราะคุณ หรือชาวสัตว์ที่ตาย หรือโดยอุบัติเหตุ หรือตามธรรมชาติ หรือแก่ชราอยู่ที่ไหนสักแห่ง ในป่าหรือตามถนน- เช่นนั้นแล้ว คุณสามารถกินได้ แต่ต่อมา พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เธอไม่ควรกินสิ่งนั้นอีกต่อไป” และทรงย้ำว่า ใครก็ตามที่กินเนื้อชาวสัตว์ ไม่ใช่ลูกศิษย์ของพระองค์ และใครก็ตามที่กินเนื้อชาวสัตว์ พระองค์ไม่ใช่ครูของผู้นั้น เช่นกัน

“ครั้งนั้น พระอารยะ (ปราชญ์) มหามาตี (มหาปัญญา) พระโพธิสัตว์-มหาสัตว์ได้กราบทูล พระพุทธองค์ว่า ภควัน (พระผู้มีพระภาคเจ้า) ข้าพเจ้าเห็นว่าในโลกทั้งมวล การพเนจรในการเกิดและการตาย ความเกลียดชังที่ฝังแน่น และการตกไปสู่ทางชั่วร้าย ล้วนมีสาเหตุมาจากการกินเนื้อสัตว์ และการฆ่าตามวัฏจักร พฤติกรรมเหล่านั้นเพิ่ม ความโลภและความโกรธ และทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถ หลีกหนีจากความทุกข์ได้ นั่นเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมากจริง ๆ’ […] 'มหามาตี เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน หากลูกศิษย์ของฉันคนใด ไม่ได้พิจารณาเรื่องนั้นอย่างสัตย์จริง แล้วยังกินเนื้อสัตว์อยู่ เราควรรู้ว่าเขาเป็นของ เชื้อสายของแคนเดลา (นักฆ่า) เขาไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉัน และฉันไม่ใช่ครูของเขา เพราะฉะนั้น มหามาตี หากผู้ใดปรารถนาจะเป็นญาติของฉัน เขาไม่ควรกินเนื้อสัตว์ใด ๆ’” ~ ลังกาวตารสูตร (พระไตรปิฎก เล่มที่ 671)

พระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นวีแกนที่เคร่งครัด คุณสามารถดูข้อความที่ตัดตอน มาบางส่วน ที่ฉันได้อธิบาย ให้คุณฟังเมื่อหลายปีก่อน เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าทรงเป็นวีแกน เพราะพระองค์ทรงกำหนดให้ ไหม ขนเป็ด นม ไข่ รองเท้าหนัง หรืออะไรก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับชาวสัตว์ คุณไม่ควรใช้เพราะ ถึงอย่างไร มันก็ทำให้เกิดทุกข์

“พระโพธิสัตว์และพระภิกษุผู้บริสุทธิ์ เดินบนเส้นทางชนบท จะไม่แม้แต่จะเหยียบ บนหญ้าที่มีชีวิต ถอนรากถอนโคนพวกมันให้น้อยลง แล้วเหตุใด ผู้มีความเมตตาจะกิน เลือดและเนื้อของสิ่งมีชีวิตอื่น? พระภิกษุผู้ที่จะไม่ สวมผ้าไหมจากตะวันออก ไม่ว่าจะหยาบหรือละเอียด ผู้ที่จะไม่สวมรองเท้า หรือรองเท้าบูตหนังหรือขนสัตว์ หรือขนเป็ดที่มาจาก ประเทศของเราเอง และผู้ที่จะไม่บริโภค นม นมเปรี้ยว หรือเนยใส ได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างแท้จริง จากโลก เมื่อพวกเขาได้ชำระ หนี้ของพวกเขาจากชาติก่อนแล้ว พวกเขาจะไม่สัญจรไปมา ผ่านทั้งสามอาณาจักรอีกต่อไป ทำไม? การสวมใส่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ชีวิตนั้นก็คือการเอากรรมของตน ไปเกี่ยวข้องกับชีวิตนั้น เช่นเดียวกับที่ผู้คนได้กลายเป็น ผูกพันกับโลกนี้ด้วยการกิน ผักและธัญพืช ฉันสามารถยืนยันได้ว่าบุคคลนั้น ผู้ไม่กินเนื้อ ของสิ่งมีชีวิตอื่นหรือสวมใส่ ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของ ชีวิตอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่ได้คิดถึง การกินหรือสวมสิ่งเหล่านี้ เป็นบุคคล ผู้ที่จะได้รับความหลุดพ้น สิ่งที่ฉันได้กล่าวคือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอน มาร ผู้ชั่วร้าย สอนเป็นอย่างอื่น” ~ ศูรางคมสูตร

แม้ว่าชาวสัตว์นั้น ไม่ได้ถูกฆ่าเพราะคุณ แต่ถ้าคุณทานเข้าไป คนก็จะต้องฆ่าชาวสัตว์ตัวอื่น เพื่อขายให้กับคนอื่น ที่ต้องการซื้อ เพราะคุณได้ทาน ส่วนนั้นของชาวสัตว์ไปแล้ว ดังนั้น ทำให้ส่วนหนึ่งหายไป ชาวไก่ตัวหนึ่งหายไป ดังนั้น หากมีใครต้องการซื้อ พวกเขาจะต้องฆ่าชาวไก่ตัวอื่น เพื่อขายให้คุณ หรือให้พวกเขา

พระพุทธเจ้าได้สอนเรื่องความเมตตา ในคัมภีร์ทุกข้อที่พระองค์ได้เทศนา ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ซึ่งเป็นเวลาหลายสิบปี ดังนั้น ถ้าพระภิกษุจะติดตาม พระพุทธเจ้า ก็ควรยึดมั่นในความเมตตา นั่นเป็นเรื่องปกติ คุณทำในสิ่งที่พระอาจารย์ของคุณทำ นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอีกด้วย คุณไม่ควรฆ่าผู้อื่น เพื่อประทังชีวิตของคุณเอง เช่นเดียวกับที่คุณไม่อยาก ถูกฆ่า เพื่อประทังชีวิตของผู้อื่น คุณจะไม่เต็มใจ ที่จะถูกฆ่าเพื่อที่เสือ จะได้กินอิ่ม – ไม่ ในทำนองเดียวกัน ชาวไก่ ชาววัว ชาวหมู ชาวแพะ ย่อมไม่อยากถูกฆ่า เพื่อประทังชีวิตของคุณ เพื่อทำให้คุณอิ่มท้อง

Photo Caption: จากทะเลทรายอันแห้งแล้งรุนแรง สู่เมืองอันคึกคัก ขอบคุณพระเจ้า เราสามารถปรับตัวได้ใหม่ อย่างมหัศจรรย์ด้วยความยินดี!

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (1/10)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์