อย่างไรก็ตาม ทุกวันคุณควรอธิษฐาน ก่อนคุณนั่งสมาธิ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) “ได้โปรด ช่วยให้ฉันมุ่งมั่นในการบำเพ็ญ โปรดอวยพรฉัน สวรรค์ทั้งหมด” (ครับ อาจารย์) “พระเจ้าสูงสุด ตัวตนที่มีเมตตาทั่วจักรวาล ก็อดเสส ก็อดเสสที่ทรงพลัง ก็อดเสสที่ทรงพลานุภาพ โปรดช่วยฉัน ให้รักษาความอดทนทางจิตวิญญาณ ให้มั่นคงในอุดมการณ์ ช่วยให้ฉันเข้มแข็ง เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป”
ฉันตอบคำถามคุณแล้วใช่ไหมที่รัก? ( มีอีกหนึ่งคำถามครับ ) เชิญ
( เมื่อโลกนี้เป็นวีแกนทั้งหมด ความสามารถทั้งหลาย เช่น การอ่านออร่า การโทรจิต ฯลฯ จะกลับมายังมนุษย์หรือไม่? )
โอ้ ไม่ทั้งหมด ไม่ทั้งหมด มันคงจะดี แต่ค่อนข้างต่อรองมากไป คุณคิดว่าใช่ไหม? แค่กินผักไม่เท่าไร แล้วคุณก็จะได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง? โอ ฉันก็หวังว่านะ แม้แต่ฉันยังไม่มีมันเลย เมื่อก่อนฉันไม่สามารถพูดกับสุนัข หรือกับสัตว์ทั้งหมดได้ จนกระทั่งเมื่อ บำเพ็ญมาหลาย ๆ สิบปี (ครับ อาจารย์) (วาว) แล้วคุณต้องการแค่เป็นวีแกน แล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ก็จะมาหาคุณ? หรือคนอื่น ๆ ทุกคน? วาว หวังไปเถอะ พระเจ้า ท่านได้ยินไหม? ท่านมอบให้ได้หรือไม่? ต้องมีค่าคู่ควร โอเค? (ครับ อาจารย์) วัวทุกตัว วัวตัวผู้ทุกตัว กระต่ายทุกตัว เต่าทุกตัว ฯลฯ พวกเขาเป็นวีแกน พวกเขาไม่มีอะไรมากมาย เหมือนที่คุณมีตอนนี้ พวกเขาไม่มี ธรรมวิถีกวนอิม
นั่นเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถมีได้ ตลอดไป (ครับ อาจารย์) ไม่ว่ากี่กัปกัลป์ไหน ที่คุณผ่าน คุณโชคดีถ้าคุณ มีธรรมวิถีกวนอิม ให้บำเพ็ญปฏิบัติ เพราะมันรับประกัน อิสรภาพของคุณตลอดกาล หลุดพ้นตลอดกาลและตลอดไป ตลอดไปและตลอดไป ผู้คนมากมาย พระสงฆ์ แม่ชี และนักบวช บำเพ็ญมาตลอดชีวิต ทำพิธีสารภาพบาปทุกรูปแบบ ปฏิเสธความสุขสบายทุกอย่าง นอนบนพื้นขรุขระ หรือกินมื้อเดียว หรือกินทุกสองหรือสามวัน หรือกินอาหารหยาบ หรือกินไม่มาก นอนบนเตียงตะปู แขวนขาข้างเดียวบนต้นไม้ หรือยืนขาเดียว ตลอดเวลา เมื่อไรก็ตาม และเผาไฟ ต่อหน้าพวกเขา ใต้แสงอาทิตย์เที่ยงวันในฤดูร้อน ฉันไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่พวกเขาไม่ได้อะไร อย่างที่พวกคุณได้ เข้าใจไหม? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) เพราะถ้าคุณบำเพ็ญต่อเนื่อง นั่นคือคุณมีการ รับประกันการหลุดพ้นรอคุณอยู่ ไม่มีใครในโลกนี้ที่ มีสิ่งที่คุณมี ไม่ใช่แค่กินมังสวิรัติหรือวีแกน แล้วคุณจะมีมัน ไม่ใช่ นั่นคงจะดีเกินไป ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกลิงทั้งหลาย คงจะมีทุกสิ่งทุกอย่าง หรือนักกินผลไม้ก็คงจะ... วีแกน พวกเขาก็ไม่มี พวกเขาไม่มีสิ่งนั้น โอเค? พวกเขาอาจจะมีพระพร อาจจะมีสันติสุขในใจ มีการปกป้องคุ้มครอง ถ้ากรรมจากอดีตชาติของพวกเขา หรือครึ่งแรกของชีวิตพวกเขา ยินยอมแบบนั้น หรือกรรมลิขิตของชาตินี้ ยินยอมแบบนั้น
เพราะว่าใครก็ตาม ที่มาในโลกนี้ ต้องมีกรรมลิขิต คุณต้องเจอกับ สิ่งนี้ สิ่งนี้ สิ่งนี้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ เพราะว่าคุณ บำเพ็ญธรรมวิถีกวนอิม แล้วคุณมีเจตจำนงเข้มแข็ง ถ้าคุณต้องการมัน ( ครับ อาจารย์ ) แต่ถ้าคุณไม่บำเพ็ญ แน่นอนคุณก็ต้อง เจอกับสิ่งที่คุณต้องเจอ คุณบำเพ็ญ กรรมของคุณก็จะน้อยลง และมันควบคู่กับอุดมการณ์ อันเข้มแข็งของคุณ อุดมการณ์คือตัวชี้นำของคุณ คุณต้องมีอุดมการณ์ที่เข้มแข็ง รู้ว่า “ผู้คนเป็นทุกข์มาก พวกสัตว์ ถูกทรมานมาก ฉันคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ ฉันต้องทำเรื่องนี้เพื่อช่วยพวกเขา วิธีใดก็ตามที่ฉันทำได้ ไม่ว่าวิธีไหนที่ฉันทำได้ แม้ว่าฉันตาย ฉันก็ทำ” นั่นคือวิธีที่คุณต้อง นำทางของคุณเอง (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
ฉันสอนคุณ หลายสิบปีมาแล้ว คุณรู้ว่า อะไรผิดอะไรถูก ฉันไม่ต้องสอนคุณอีก ฉันก็ไม่อยาก คุณรู้อยู่แล้ว คุณเป็นผู้นำของตัวคุณ คุณคืออาจารย์ของคุณ คุณลงมือทำ ดังนั้นใครที่ออกไป อย่างที่คุณถามครั้งก่อน พวกเขาอ่อนแอ โอเค? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) พวกเขาอาจจะบำเพ็ญ ไม่เข้มแข็งพอ หรือไม่มีอุดมการณ์เพียงพอ วิญญาณ ที่มีอุดมการณ์ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แน่นอนคนเหล่านี้ออกไป ฉันเข้าใจ รู้ว่าพวกเขาถูกสั่นคลอน โอเค? พวกเขาพ่ายแพ้การต่อสู้ ฉันให้อภัยตลอดเวลา ให้อภัยย่อมดีกว่าการ เก็บความขุ่นเคือง เพราะมันเบากว่า มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจกว่า (ครับ) ฉันให้อภัยเสมอ การให้อภัยนั้น ง่ายกว่าการลงโทษ โอเค? (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
เอาล่ะ ฉันตอบคำถามคุณแล้ว ใช่ไหม? (ครับ อาจารย์) ฉันขาดอะไรไปหรือเปล่า? หรือว่ามีอะไรที่ คุณคิดว่าฉันควรอธิบายเพิ่ม? ( เป็นคำตอบที่ สมบูรณ์ดีมากครับ อาจารย์ ขอบคุณท่านครับ ) โอเค ที่รัก
( อาจารย์ครับ ก่อนหน้านี้ท่านพูดนิดหน่อย เกี่ยวกับการสวดอธิษฐานและ พันธะสัญญาเมื่อก่อนนี้ ) งั้นหรือ? ( พลังของการอธิษฐาน มันทำงานอย่างไร? มันเป็นเพราะพันธะสัญญา สวรรค์ไม่สามารถช่วยเหลือผู้คน เราจึงต้องอธิษฐาน เพื่อที่สวรรค์จะ มีเหตุผลเข้าแทรกแซง ใช่ไหม? )
ใช่ เพราะเราเป็นมนุษย์ด้วยกัน หรือพูดได้ว่าเครือญาติ หรือมนุษย์ด้วยกัน เราล้วนแต่มีการเชื่อมต่อ เราทุกคนมีบุญสัมพันธ์ ที่อยู่ในโลกเดียวกัน หรือในประเทศเดียวกัน นั่นคือบุญสัมพันธ์ ที่เรามีจากอดีตชาติ นั่นคือเหตุที่เรา มาเกิดในสถานที่เดียวกัน เช่น เอาหลัก (เวียดนาม) หรือในจีน หรือในเยอรมนี หรือในอเมริกา ดังนั้นเราสามารถอธิษฐาน เพราะเมื่อเราอธิษฐาน เราเชื่อมต่อกับสวรรค์มากขึ้น (ครับ อาจารย์) ดังนั้น พลังของสวรรค์ สามารถเชื่อมต่อกับคุณ และถ่ายเทเข้าถึงคุณ และเนื่องจากคุณ มีบุญสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่น ๆ พลังนั้นสามารถถ่ายทอด เพราะว่าเขาหรือเธอนั้นไม่มี ไม่มี หรือไม่มีในขณะนั้น อ่อนแอ (ครับ อาจารย์) ถูกล้อมด้วยกรรม หรือด้วยสิ่งตรงกันข้าม ดังนั้น ด้วยพลังพิเศษของคุณเวลานี้ คุณสามารถแบ่งปัน เพราะถ้าคุณไม่มี พลังพิเศษมากพอ
เช่นถ้าคุณไม่มีเงิน ถึงแม้คุณอยากจะ ช่วยเพื่อนของคุณ คุณก็ทำไม่ได้ คุณต้องมีเงินพิเศษอยู่บ้าง เพื่อที่จะให้คนอื่น (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ใช่ การที่จะมีสิ่งนั้น ไม่ว่าคุณต้องมีเก็บไว้ในบัญชี หรือคุณไปที่ธนาคาร คุณติดต่อธนาคาร เอาเงินออกมาโดยเครดิตการ์ด โดยอะไรก็ตาม นั่นคือความหมายของการอธิษฐาน พูดแบบให้เห็นภาพแบบนั้น คุณเข้าใจหรือยัง? (ครับ อาจารย์) เข้าใจใช่ไหม? (ครับ อาจารย์ ขอบคุณท่านอาจารย์) เอาล่ะ ถ้าคุณไม่ไปธนาคาร ถ้าคุณไม่ทำงาน ถ้าคุณไม่มีเงินเก็บ แล้วคุณก็ไม่สามารถช่วยใคร อย่างที่คุณอยากช่วย (ครับ) ก็เหมือนถ้าคุณไม่อธิษฐาน คุณก็ไม่มีพลังเพิ่มพิเศษ ที่จะให้คนนั้น หรือการสวดอธิษฐานก็เหมือนกับ คุณทำกิจกรรม โกฟันด์มี หรือคุณสร้างกองทุน หรือองค์กร หรือทำมูลนิธิ เช่น ขอร้องคนอื่น เพื่อให้ช่วยคุณทางการเงิน พวกเขาจะบริจาคให้กับกองทุนนั้น หรือบัญชี โกฟันด์มี จากนั้นคุณสามารถใช้เงินนั้น เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้เพราะ ตัวคุณเองมีเงินไม่เพียงพอ เพื่อช่วยทุกคน ที่คุณต้องการช่วย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ นั่นชัดเจนมากขึ้นสำหรับคุณนะ
อย่างไรก็ตาม ทุกวันคุณควรอธิษฐาน ก่อนคุณนั่งสมาธิ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) “ได้โปรด ช่วยให้ฉันมุ่งมั่นในการบำเพ็ญ โปรดอวยพรฉัน สวรรค์ทั้งหมด” (ครับ อาจารย์) “พระเจ้าสูงสุด ตัวตนที่มีเมตตาทั่วจักรวาล ก็อดเสส ก็อดเสสที่ทรงพลัง ก็อดเสสที่ทรงพลานุภาพ โปรดช่วยฉัน ให้รักษาความอดทนทางจิตวิญญาณ ให้มั่นคงในอุดมการณ์ ช่วยให้ฉันเข้มแข็ง เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป” (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แบบนั้น นั่นเป็นการอธิษฐานก่อนนั่ง และหลังจากนั้นคุณบอก “ขอบคุณ ในการช่วยเหลือทั้งหมด”
หลังจากนั่งสมาธิ หรือทุกเวลา ฉันขอบคุณตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ตอนนั่งสมาธิ แต่ว่าในร่างกายเนื้ออันนี้ ฉันต้องการความช่วยเหลือ เมื่อใดที่พวกเขาไม่สามารถช่วย แล้วฉันก็ต้องทำเอง แน่นอน แต่มันทำให้ฉันเสียบางอย่างไปด้วย แต่ไม่เป็นไร ฉันต้องทำสิ่งที่ฉันทำ มันก็โอเค มันโอเค ฉันชอบ ฉันไม่สามารถปล่อยให้ ปีศาจร้ายเหล่านี้ป้วนเปี้ยน และทำอันตราย ต่อผู้คนมากขึ้น พวกนั้นทำงานผ่านมนุษย์ และใครก็ตามที่มีอำนาจ พวกนั้นจะพยายามเข้าหา ดังนั้น ปกติแล้ว ปีศาจหนึ่งตัวจะพยายามเกาะหนึ่งคน แต่กรณีที่เป็นผู้นำที่สำคัญ มันจะส่งไปหลายตัว (ครับ อาจารย์) สาม สี่ ห้า โชคดีที่ฉันนำพวกมันส่วนใหญ่ ลงไปแล้ว มิฉะนั้นจะมี ความโกลาหลมากขึ้น โอเคนะ? (ค่ะ อาจารย์)
อา ใช่ ตอนนี้… เขาถามเรื่องอะไรนะ? ( เกี่ยวกับการสวดอธิษฐานครับ แต่ขอบพระคุณ ท่านตอบผมแล้วครับอาจารย์ ) พลังการนั่งสมาธิของคุณ เพียงพอที่จะ... ถ้าคุณนั่งสมาธิ ตามวิธีที่ฉันบอกคุณ อย่างน้อยวันละสามครั้ง และนั่งสมาธิก่อนนอน คุณนั่งบนเตียง หรือบนเก้าอี้ แล้วนั่งสมาธิ ต้องแน่ใจว่าคุณนั่งใกล้กับผนัง ไม่ใช่ใกล้ขอบเตียง คุณอย่าคิดว่าคุณมี พลังสมาธิมากพอที่จะ ทำให้คุณนั่งตรงและไม่ล้ม ฉันเป็นห่วงพื้นห้องของคุณ มันอาจจะแตก การนั่งสมาธิทุกวันของคุณ มันพอที่จะคุ้มครองคุณ และอีกอย่างคือ เพราะคุณทำงานให้กับ โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ คุณมีบุญกุศลพิเศษบางอย่าง ที่คุ้มครองคุณ (ครับ อาจารย์) แต่ถ้าคุณต้องการช่วยผู้อื่น ใครที่คุณคิดว่าคุณควรอธิษฐานให้ ก็อธิษฐานเป็นพิเศษ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) สวดอธิษฐานเป็นพิเศษ ให้พระเจ้าช่วยคนนั้น เปลี่ยนบางสิ่งให้เหมาะแก่เขา เพราะเขาเป็นคนดีมีความยุติธรรม เขาดีสำหรับพวกเรา สำหรับโลก
( อาจารย์ครับ ถ้าคนเรา ป่วยและติดเชื้อ จากไวรัสโควิด-19 แล้วขอให้วิญญาณสัตว์ ซึ่งอยู่ในไวรัสนั้น ยกโทษให้เขา มันจะช่วยวิญญาณสัตว์ และช่วยคนที่ติดเชื้อนั้น ได้บ้างไหมครับ? )
มันแล้วแต่ รู้ไหม ไวรัสเหล่านี้ จากสัตว์ที่ถูกฆ่ามาก่อน นานนานมาแล้ว ไม่ใช่สมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสมัยนี้ (ครับ) พวกเขา ไปเกิด ในภูมิภพต่าง ๆ แล้ว แต่ในยุคสมัยนี้เนื่องจาก เป็นยุคการพิพากษาครั้งสุดท้าย และสวรรค์ก็อนุญาตด้วย นี่เป็นพันธะสัญญาที่ทำไว้ กับมายาเมื่อก่อนอีกเช่นกัน (ครับ อาจารย์) พวกเขาจึงได้รับอนุญาตให้แก้แค้น (โอ ครับ โอเค) และปกติแล้ว คนที่ติดเชื้อ คือคนที่หมดบุญกุศลแล้ว หมดคุณค่าแล้ว และ...อะไรก็ตาม แล้วแต่คุณจะเรียก ดังนั้น ชีวิตพวกเขาจึงทรมานแบบนั้น ดังนั้นพวกเขาไม่มีอะไร ที่จะให้ไวรัสเป็นการแลกเปลี่ยน คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหม? (ค่ะ/ครับ อาจารย์) เพราะโลกเรายุคสมัยนี้ มันเป็นช่วงของ การพิพากษาครั้งสุดท้าย ซึ่งมาถึงมนุษยชาติแล้ว
ฉันเคยเตือน ตลอดหลายสิบปีมานี้ แต่ไม่มีใครฟังมากนัก ถ้าพวกเขากลับใจ พวกเขาก็จะ เราก็จะหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้ หรือทุกข์ทรมานน้อยลง ดังนั้นคนเหล่านี้ พวกเขากรรมเยอะ หนักมากแล้ว เวลาของพวกเขาเป็นอย่างนั้น พวกเขาไม่มีอะไรจะให้ ถ้าพวกเขามีอะไรจะให้ได้ แล้วแน่นอนก็ช่วยได้ ถ้าพวกเขารู้ ถ้าพวกเขาเชื่อในเรื่องกรรม แน่นอนพวกเขาอธิษฐานด้วยก็ได้ สามารถอธิษฐานด้วย แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น คุณไม่สามารถต่อรอง กับวิญญาณเหล่านี้ได้โดยตรง มันต้องมีการยื่นมือเข้าช่วย จากบางคนที่บำเพ็ญถึงระดับสูง คนที่บรรลุระดับสูง ต้องเป็น อาจารย์ในอดีตหรือปัจจุบันด้วยซ้ำ (ครับ อาจารย์) ให้ยื่นมือเข้าช่วย เป็นสักขีพยานในสัญญา คนป่วยนี้สามารถพูดในใจ ถึงแม้ว่า เขาไม่เห็นวิญญาณไวรัสนั้นก็ตาม เขาสามารถพูดว่า “ได้โปรด ถ้าฉันเคยทำร้ายเธอ ถ้าฉันเคยฆ่าเธอ หรือทรมานเธอมาก่อน เนื่องจากความโง่เขลาของฉัน ได้โปรดอภัยให้ฉัน ถ้าฉันมีชีวิตรอดได้ ฉันจะกลับตัว ฉันสามารถช่วย ฉันจะพยายามช่วยเหลือสัตว์แทน และฉันจะสร้างบุญกุศลโดย ทำสิ่งที่ถูกต้องศีลธรรม ปฏิบัติตามอาจารย์บางท่าน แล้วถ้าฉันมีบุญกุศลใด ฉันจะแบ่งให้เธอ และเธอจะหลุดพ้นจาก ภูมิภพชั้นต่ำนี้” พวกเขาก็ทำแบบนี้ได้ และพวกเขาจะเป็นอิสระได้ คุณเข้าใจไหม? (ครับ อาจารย์)
พลังอาจารย์และสวรรค์ ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ มากมายแล้ว นอกจากว่า เวลาของคนนั้นหมดลง แล้วพวกเขาก็ต้องไป คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหม? (ครับ อาจารย์) ถ้ายังมีเวลาเหลือ ให้มีชีวิตอยู่ได้ อาจารย์ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาตาย จะยื่นมือเข้าช่วย และต่อรอง คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหม? (ครับ อาจารย์) กับวิญญาณของคน ๆ นั้น ถ้าในใจพวกเขาสำนึกผิด แล้วมันก็จะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าคนนั้นรอดกลับมา และทำอย่างเดิมอีก และโง่เขลาอีก พูดว่า “โอ ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน” นั่นเพราะว่าวิญญาณเขาเข้าใจ แต่สมองเขาไม่เข้าใจ เขาคิดว่า “โอ เขาสามารถกลับมา ทำอย่างเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นก็แค่ เรื่องเล็ก ฉันป่วยแค่ไม่กี่วัน หรือหนึ่งสัปดาห์ สองสัปดาห์ หนึ่งเดือน และตอนนี้ฉันสบายดี” พวกเขาลืมคำสาบานของตัวเอง ลืมสัญญาของตัวเอง แล้วพวกเขาก็จะป่วยอีก หรือบางอย่างจะเกิดขึ้นกับพวกเขา แล้วพวกเขาจะทุกข์ทรมานอีก ดังนั้นมันต้องจริงใจ เพราะว่าสวรรค์รู้หมด